จากกรณีที่พระพระมหาศรนรินทร์ ธมฺมนรินฺโท หรือ หลวงพี่โจ เมืองตรัง พระอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ที่เคยตกเป็นกระแสในโซเชียลเมื่อช่วงเดือนเมษายน 2565 ที่ผ่านมา จากกรณีที่หลวงพี่โจพาคณะสงฆ์ เที่ยวทะเลและลงดำน้ำอย่างสนุกสนาน จนชาวเน็ตตั้งคำถามถึงความเหมาะสมมาแล้วครั้งหนึ่งนั้น

ล่าสุดพระมหาศรนรินทร์ ธมฺมนรินฺโท หรือหลวงพี่โจ พระผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่พรุ ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งจบการศึกษาระดับปริญญาโท ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการสอนสังคมศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และหลวงพี่โจ ยังเป็นเจ้าของช่อง TikTok sornnarin_ ที่มียอดผู้ติดตามกว่า 1 แสนคน ตกเป็นข่าวอีกครั้งเมื่อลงคลิปในโซเซียลรีวิวการเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลา 7 วัน 7 คืน ลุยโตเกียว เที่ยวโอซาก้า ชื่นชมหิมะที่ชิราคาวาโกะ จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของชาวเน็ตอีกครั้งถึงความเหมาะสมในความเป็นพระ เกี่ยวกับกระแสดังกล่าว

‘หลวงพี่โจ’ เที่ยวฉ่ำญี่ปุ่นผิด ‘โลกวัชชะ’ จ่อถอดพ้น ‘ผู้ช่วยเจ้าอาวาส’ เหตุผิดซ้ำ

‘หลวงพี่โจ’ ท็อปฟอร์มอีกรอบ รีวิวเที่ยวญี่ปุ่น 7 วัน 7 คืนแบบฉ่ำๆจนถูกสับยับ!

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังวัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เพื่อสอบถามความคิดเห็นกับทางพระราชธรรมนิเทศน์ หรือพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว โดยพระพยอม กล่าวว่า พระรูปนี้ก็แค่สวมเครื่องแบบนักบวช แต่จิตวิญญานเป็นนักท่องเที่ยวอย่างตัวฉกาจ เพราะถึงขั้นลงทุนหาเงินไปเที่ยวญี่ปุ่นได้ เป็นพระต้องออกธุดงค์ ปลีกวิเวก ไม่ไปในที่อโคจร พระรูปนี้ไม่เหลือจิตวิญญานของความเป็นนักบวชแล้ว เพราะเป็นนักท่องเที่ยวเต็มตัว เรื่องนี้ทางคณะสงฆ์ผู้ปกครองต้องเรียกตักเตือนให้หยุดได้แล้ว ครั้งก่อนก็ไปดำน้ำจนตกเป็นข่าวมาแล้ว แล้วครั้งนี้ก็มาโชว์เดินทางท่องเที่ยวอีก เหมือนกำลังหาเรื่องให้ชีวิตตัวเองมีความไม่สงบ เพราะทำออกมาโชว์ประจานตัวเองแท้ๆ นี่ถ้าแบบไปเที่ยวแบบเงียบๆ ก็คงไม่มีใครรู้ ไม่ตกเป็นข่าวอีก แต่เพราะอยากโชว์อยากเด่น คิดว่าเท่ห์ เรื่องมันจึงเกิด

พระพยอม กล่าวอีกว่า เรื่องที่ครั้งก่อนพระรูปนี้ออกมาแก้ตัวตอนไปดำน้ำเที่ยวทะเลว่า เป็นเพียงบาปเล็กน้อยนั้น พระแบบนี้พระพุทธเจ้าท่านเรียกว่า ภิกขุทุมมังกุ ที่แปลว่า พระที่เเก้ยาก เขินยาก กระดากยาก หรือพูดง่ายๆให้เข้าใจก็คือ หน้าด้าน ไร้ยางอาย จึงกลายเป็นภิกขุผู้หน้าด้าน ไร้ยางอาย ความกระดากก็ไม่มี ความอายก็ไม่มี ซึ่งพระพุทธเจ้าท่านจะลงโทษพระภิกขุเหล่านี้ด้วยการไม่สั่งสอนและไม่เตือน โดยเฉพาะที่รู้ตัวอยู่แล้วว่ากระทำผิด แม้จะเป็นการกระทำผิดเล็กๆ น้อยๆ แต่ก็ทำอีกโดยไม่ละอายใจ แบบนี้ต้องปล่อยให้เขาไปตามทางของเขา ไปเป็นนักท่องเที่ยวให้สบายใจของเขาไป การทำผิดเล็กน้อยโลกก็ติเตียนแล้ว แต่จะทำผิดบ่อยๆ ซ้ำๆ จนกลายเป็นคนหน้าด้านไป เรื่องนี้ก็ต้องฝากไปถึงญาติโยมที่ไปร่วมทำบุญกับพระรูปนี้ด้วยว่า ลองคิดดูให้ดีเถอะ การไปทำบุญกับพระแบบนี้มันจะได้บุญไหม เขาเอาเงินที่ญาติโยมตั้งใจทำบุญทะนุบำรุงศาสนาไปเที่ยวเตร่แบบนี้ ก่อนจะทำบุญกับพระรูปใดควรไตร่ตรองดูพฤติกรรมให้ดี และพระพุทธเจ้าท่านไม่สรรเสริญ บุคคลทำบุญเยอะๆ ทำบุญมักมาก แต่พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริฐบุคคลที่ใคร่ครวญดีแล้วจึงนำออกให้มากกว่า ดังนั้นอย่าไปสนับสนุนให้เงินทำบุญกับพระเหล่านี้ เพราะจะเอาเงินทำบุญที่ได้มาไปผลาญไปเที่ยวเตร่โดยไม่เกิดประโยชน์ พระแบบนี้เวลาตายไปจะถูกยมบาลเขกหัว ซึ่งเท่าที่ดูมาพระรูปนี้ก็คงหนีไม่พ้นยมบาลเป็นแน่.