เมื่อวันที่ 11 ม.ค. นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ( DSI)  กล่าวหาอดีตรัฐมนตรีและข้าราชการระดับสูงกระทรวงแรงงาน เรียกรับผลประโยชน์หักค่าหัวคิวแรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานในฟินแลนด์ ว่า ขอยืนยันว่า เราไม่ได้เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ และพร้อมยืนยันการทำงานด้วยความบริสุทธิ์ เพราะการเดินทางไปทำงานต่างประเทศของแรงงานทุกคนเดินทางไปทำงานด้วยความถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนที่แจ้งว่า มาจ่ายให้กระทรวงแรงงานนั้น  เราไม่ทราบ และในประเด็นนี้ ขณะนี้ ตนได้สั่งการให้กรมการจัดหางาน เก็บรวบรวมข้อมูลรายละเอียดต่างๆ เพื่อชี้แจงและให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับทาง DSI และ ปปช. เรียบร้อยแล้ว

ทั้งข้อมูลการเดินทางตั้งแต่ปี 2563 – 2566 ว่าแรงงานไปทำงานที่ส่วนไหนของฟินแลนด์บ้าง เสียค่าใช้จ่ายไปเท่าไหร่ นายจ้างชื่ออะไร และเสีย 3,000 บาท ให้กับใคร เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกกล่าวหานั้นมีความชัดเจนขึ้น ซึ่งต้องดูข้อเท็จจริง 

แต่อย่างไรก็ตาม ตนพร้อมให้ข้อมูลตามข้อเท็จจริง เพื่อทำความจริงให้ปรากฎ ส่วนเรื่องของการลอยแพ เป็นเรื่องของกลุ่มผู้ประสานงานที่พาแรงงานไทยไปทำงานที่ฟินแลนด์  ซึ่งปี 2565 เป็นการเดินทางไปทำงานด้วยตนเอง พอมาปี 2566 เป็นการเดินทางไปทำงานด้วยนายจ้างพาไปเพื่อป้องกันปัญหาของแรงงานโดนเอาปรียบ ซึ่งจากประเด็นเมื่อปี 2565 ที่มีปัญหาเพราะแรงงานไทยเดินทางไปเยอะ ทั้งสวีเดน ฟินแลนด์ รวมกันประมาณ 8,000 คน โดยในแต่ละปีเราสามารถตรวจสอบรายชื่อแรงงานได้ ซึ่งปกติแรงงานจะเสียค่าใช้จ่ายในการไปทำงานเพียงคนละ ประมาณ 30,000 บาท

“ผมพร้อมให้ความร่วมมือกับทาง DSI และ ปปช.ในการให้ข้อมูล และในระหว่างที่ผมเป็นอธิบดีกรมการจัดหางานนั้น ปัญหาการเรียกเก็บค่าหัวคิวไม่มีข้อมูลตรงนี้ แต่ในส่วนของผู้ประสานงานเรียกเก็บ นำส่งไปเจ้าหน้าที่หรือข้าราชการระดับสูงนั้น ผมไม่ทราบข้อมูล” นายไพโรจน์ กล่าว.