จากกรณีคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กรณีขบวนการหมูเถื่อน ต่อมารวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอาญาออกหมายจับ 5 บุคคล ประกอบด้วย 1.นายหลี่ เซิ่งเจียว หรือเฮียเก้า เป็นนายกสมาคมการค้าแลกเปลี่ยนเศรษฐกิจไทยเอเชีย และเป็นน้องชายต่างมารดานักการเมืองดัง 2.นายหยาง ยา ซุง 3.นายกรินทร์ ปิยพรไพบูลย์ ลูกชายเฮียเก้า 4.น.ส.นวพร เชาว์วัย พนักงานบัญชีของเฮียเก้า และ 5.นายสมเกียรติ กอไพศาล ในความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร ,พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ ,ความผิดฐานอั้งยี่ซ่องโจร และข้อหาร่วมกันฟอกเงิน ตามที่เสนอข่าวให้ทราบนั้น

ความคืบหน้าต่อมาวันที่ 12 ม.ค. พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม และในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนดีเอสไอ เปิดเผยว่า หลังเข้าตรวจค้นบริษัท โกลเด้น ชาวเวอร์ เทรดดิ้ง จำกัด เลขที่ 981/101-102 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา ของเฮียเก้านั้นพบเอกสารหลักฐาน ที่เฮียเก้าทำเรื่องส่งตีนไก่ไปขายยังต่างประเทศ ทั้งยังพบด้วยว่ามีบริษัทอีกหลายแห่ง ที่ดำเนินกิจการร่วมกับบริษัทของเฮียเก้า อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าดำเนินธุรกิจถูกต้องหรือไม่ และยังพบเอกสารข้อความที่ระบุถึงบริษัทชิปปิ้งเอกชน 2 บริษัทที่เข้ามาเกี่ยวข้องซึ่งจะเรียกตัวผู้บริหารเข้าให้ปากคำชี้แจงในฐานะพยานต่อไป

พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวว่า สำหรับภรรยาของเฮียเก้านั้น ประกอบธุรกิจร่วมกับสามีคือผ้าอ้อมสำเร็จรูปสำหรับเด็ก ส่วนกิจการขายส่งสินค้าประเภทตีนไก่ เฮียเก้าทำกับบุตรชาย โดยภรรยาของเฮียเก้ารับปากว่าจะประสานสามีกับลูกชาย เดินทางกลับไทยเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อสู้คดีภายในสัปดาห์หน้า ส่วนนายหยาง ยา ซุง และ น.ส.นวพร เชาว์วัย สองสามีภรรยา เดินทางออกจากประเทศไทยไปเมื่อวันที่ 6 ม.ค.67 ปลายทางไต้หวัน ล่าสุดได้รับแจ้งว่าทั้งคู่มอบหมายให้ทนายความ ประสานเตรียมเดินทางกลับไทยเข้ามอบตัวสู้คดีวันที่ 19 ม.ค.นี้ ส่วนกรณีของนายสมเกียรติ กอไพศาล ซึ่งมีบทบาทสำคัญคู่กับเฮียเก้า รับหน้าที่คุมการส่งออกตีนไก่ไปจำหน่ายยังต่างประเทศ ติดต่อจะเข้ามอบตัววันที่ 15 ม.ค.นี้ เวลา 10.00 น.

ต่อข้อถามที่มีรายงานว่าพบรถยนต์หรูจอดอยู่ภายในบ้านพักแห่งหนึ่งของนายสมเกียรติ ซึ่งชื่อผู้ครอบครองรถคือหนึ่งในแก๊งเว็บพนันออนไลน์มาเก๊า 888 นั้น พ.ต.ต.ณฐพล ระบุว่า เราต้องขอไปตรวจสอบก่อน ว่าใครเป็นเจ้าของรถและผู้ใช้รถตัวจริง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายสมเกียรติ หรือเฮียเกียรติ เดิมเป็นนักธุรกิจเริ่มจากทำรับเหมาก่อสร้างที่ จ.นครปฐม ก่อนย้ายไปประกอบกิจการเกี่ยวกับโรงกลึงในพื้นที่ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งการย้ายไปปักหลักที่ อ.ปราณบุรี ทำให้เฮียเกียรติรู้จักกับพี่ชายนักการเมืองดัง จากนั้นพานายสมเกียรติเข้าสู่วงการเมือง ช่วยงานการเมืองให้นักการเมืองชื่อดังที่เป็นน้องชาย จนได้รับความไว้วางให้เป็นเลขาส่วนตัว และเคยดำรงตำแหน่งประธานคณะทำงาน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในสมัยนักการเมืองคนดังกล่าวเป็นรัฐมนตรีด้วย

ขณะที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีต รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงกรณีที่ดีเอสไอออกหมายจับขบวนการหมูเถื่อน โดย 1 ในนั้นคือนายหลี่ เซิ่งเจียว หรือเฮียเก้า ที่ระบุว่าเป็นน้องชายต่างมารดาของนายเฉลิมชัย ว่า เป็นเรื่องเท็จเพราะบิดาตนอยู่ในไทยมานาน 80 กว่าปี หลังจากบิดาตนมาอยู่เมืองไทยไม่เคยกลับไปประเทศจีนอีกเลย จะไปมีลูกที่จีนได้อย่างไร นอกจากนี้ตนไม่รู้จักบ้านของเฮียเก้า รวมถึงไม่เคยไปบ้านและที่ทำงานของเขาด้วย ส่วนกรณีที่เคยเจอกันในงานนั้น เป็นเพราะตนได้รับเชิญให้ไปร่วมงานในโรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งมีนักธุรกิจและข้าราชการมาร่วมงานจำนวนมาก มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่เราจะรู้ได้ทั้งหมดว่าใครทำอะไรอย่างไรบ้าง

ต่อข้อถามกรณีของบุตรชายของเฮียเก้าคือนายกรินทร์ ปิยพรไพบูลย์ ซึ่งเป็นนามสกุลเดียวกับนายวิรัช ปิยพรไพบูลย์ พี่ชายของนายเฉลิมชัย และนายจักพันธ์ ปิยพรไพบูลย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ และเป็นหลานชายของนายเฉลิมชัยนั้น นายเฉลิมชัย อธิบายว่า ตนรู้แค่ว่าเป็นการมาขอใช้นามสกุลแต่ไม่ทราบรายละเอียดเรื่องนี้ ยืนยันชีวิตของตนไม่เคยเอื้อผลประโยชน์ให้กับคนพวกนี้ ไม่เคยรับเงินสกปรกทั้งต่อหน้าและลับหลัง เพราะในชีวิตของตนเกลียดการทุจริตคอร์รัปชั่น ดังนั้นถ้าเป็นการกระทำความผิดของใคร บุคคลนั้นต้องรับโทษและเข้าสู่กระบวนยุติธรรม เพื่อพิสูจน์ตัวเองต่อไปในชั้นศาล ไม่มีสิทธิ์ที่จะได้รับการยกเว้น ตนไม่เคยปกป้องคนที่ทำผิดอยู่แล้ว โดยบอกกับคนใกล้ชิดและข้าราชการ ว่าถ้ามีใครทำอะไรที่ผิดกฎหมายตนจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือปกป้องเด็ดขาด

‘ใครผิดก็ว่าไปตามผิด ถ้าคนทำผิดเป็นญาติหรือคนสนิทของผม เขาต้องรับโทษ ผมไม่ปกป้องอยู่แล้ว ขอให้เอาความจริงมาพูดกัน อย่าเอาประเด็นทางการเมืองมาโยง มันไม่มีประโยชน์ วันนี้การที่เรารู้จักใครสักคน มันไม่มีทางที่เราจะรู้ได้หมดว่าแต่ละคนที่เรารู้จักนั้น เขาทำอะไรบ้าง แม้กระทั่งญาติพี่น้อง บางคนยังไม่รู้ว่าพี่น้องที่อยู่บ้านเดียวกันทำธุรกิจอะไรบ้าง เพราะฉะนั้นใครทำอะไรไป ต้องรับผลของการกระทำตรงนั้น ถ้าเขาไม่ได้ทำผิดต้องต่อสู้คดี ถ้าทำผิดเขาต้องรับโทษ ผมเชื่อว่ากฎแห่งกรรมมีจริง ขอฝากบอกถึงทุกคนได้เลยว่า ขอให้เชื่อเถอะว่ากฎแห่งกรรมมีจริง’นายเฉลิมชัย กล่าว

นายเฉลิมชัย กล่าวอีกว่า ตนสามารถชี้แจงทุกอย่าง และสมัยที่ตนเป็น รมว.เกษตรฯนั้น ตอนที่ปรากฏข่าวพบการลักลอบนำเข้าเนื้อหมูเข้ามา ตนได้สั่งการอธิบดีกรมปศุสัตว์ว่า ห้ามปล่อยเนื้อหมูเหล่านั้นออกจากท่าเรือหรือสถานที่ต่าง ๆ ต้องไม่มีการเคลียร์หรือยินยอมให้นำเนื้อหมูดังกล่าวออกมา ถ้าถูกนำเข้ามาอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย คำสั่งนี้ของตนจึงเป็นที่มาของการอายัดเนื้อหมู 100 กว่าตู้ ซึ่งสามารถไปสอบถามเรื่องคำสั่งนี้จากข้าราชการของกระทรวงฯได้เลย ขณะที่ทางกระทรวงฯได้จับกุมอายัดและทำลายเนื้อหมูเถื่อนแล้ว ส่วนจะมีข้าราชการคนใดเข้าไปเกี่ยวข้องกับปัญหาดังกล่าว ต้องว่ากันไปตามกระบวนการ อย่างไรก็ตามในส่วนของตนตอนนี้ให้ทุกอย่างว่ากันไปตามกระบวนการ ถ้ามีใครมาทำอะไรให้ตนได้รับความเสียหาย จะดำเนินตามกฎหมายต่อไป.