เมื่อวันที่ 19 ม.ค. ใครเคยติดเชื้อไวรัสเริม ไม่ว่าจะเป็นส่วนไหนของร่างกาย ย่อมรู้สึกปวดแสบปวดร้อน และรำคาญมาก  ยิ่งช่วงไหนพักผ่อนน้อย เจ้าเริมตัวร้ายก็จะคายพิษออกมาให้เป็นตุ่มใส ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย โดยเริมสามารถขึ้นได้หลากหลาย ไม่ว่าที่ปาก หลัง หรือแม้แต่อวัยวะเพศ และสามารถแพร่กระจายผ่านการมีเพศสัมพันธ์ทุกรูปแบบ เช่น ปาก ช่องคลอด ทวารหนัก แต่โชคดีมันอยู่ได้ไม่นาน ไม่สามารถแพร่เชื้อได้จากสิ่งของ ไม่ว่าจะเป็นฝารองนั่ง หรือผ้าเช็ดตัว

ล่าสุดเพจเฟซบุ๊ก วันนี้พี่เด้นท์สูติซอยอะไร? ออกมาเผยแพร่องค์ความรู้เกี่ยวกับกรณีทางการแพทย์ติดเชื้อเริมที่อวัยวะเพศ แต่ช่วงนี้เจอ 3–4 เคสติดๆ กัน จากการดูประวัติไม่พบว่า ผู้ป่วยมีความเสี่ยงที่จะมีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ชัดเจน

แต่คนไข้สงสัยว่า การติดเชื้อเริมของตนเองอาจเกิดจากการที่ไปทำเลเซอร์ขน หรือที่เรียกว่าเลเซอร์บิกินี ซึ่งเป็นการกำจัดขนในที่ลับหรือรอบจุดซ่อนเร้นให้เรียบเนียน ซึ่งคุณหมอเผยว่า เป็นไปได้ที่จะเกิดเริม เพราะทางคลินิกที่ทำเลเซอร์ใช้ไม้พายป้ายเจลเย็น (ที่นำมาทาที่อวัยวะเพศไปแล้ว) ลงกลับไปป้ายในกระปุกเจลเย็นซ้ำอีกที

ซึ่งการทำเช่นนี้อาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้แน่นอน อีกทั้งแพทย์ยังฝากเตือนให้ประชาชนเลือกคลินิกความงามกันอย่างระมัดระวัง

ทั้งนี้ เมื่อติดเชื้อไวรัสเริม อาจเริ่มมีความรู้สึกคันบริเวณอวัยวะเพศ พร้อมทั้งสามารถสังเกตเป็นแผลพุพองเล็กๆ ซึ่งหากเม็ดพองแตกออกจะมีน้ำหรือเลือดไหลออกมา รวมถึงสามารถสังเกตได้จากมีไข้ ปวดศีรษะ หรือรู้สึกคล้ายไข้หวัดใหญ่

ในส่วนของการรักษาเริมที่อวัยวะเพศ ตามรายงานของพบแพทย์ ปัจจุบันโรคเริมยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถควบคุมและบรรเทาอาการได้โดยการใช้ยาต้านไวรัส เช่น ยาอะไซโคลเวียร์ (Acyclovir) ยาวาลาไซโคลเวียร์ (Valacyclovir)

ซึ่งจะช่วยให้แผลหายเร็วขึ้นในผู้ที่เพิ่งมีอาการ บรรเทาความรุนแรง ลดระยะเวลา และความถี่ของการกลับมาเกิดซ้ำ อีกทั้งลดโอกาสการแพร่เชื้อไวรัสสู่ผู้อื่น ซึ่งแพทย์อาจให้ผู้ป่วยรับประทานยาตั้งแต่ที่ผู้ป่วยเริ่มแสดงอาการ

ขอบคุณที่มาจาก วันนี้พี่เด้นท์สูติซอยอะไร?