เมื่อวันที่ 20 ม.ค. นางกมลพัฒน์ สหัสธัชพงษ์ มารดา น้องโยโกะ ได้เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ว่าเมื่อวันที่ 19 มกราคม ตนได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าจะนำเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลัฐาน เข้าทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่คอนโดฯ ที่เกิดเหตุ ตนจึงได้ประสานให้ทางทนายความของตน ไปร่วมตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งจากการเข้าทำการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์ ตนได้รับข้อมูลจากทนายความว่า เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดเครื่องเก็บข้อมูล เซิร์ฟเวอร์ จากที่คอนโดฯ ส่งมอบให้พนักงานสอบสวน รวบรวมข้อมูลเพื่อตอบข้อสงสัยทั้ง 26 ข้อต่อไป จึงทำให้ตนมีความหวังว่า กล้องวงจรปิดน่าจะสามารถบันทึกเหตุการณ์ในช่วงก่อนและหลังเกิดเหตุได้

นางกมลพัฒน์ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ภายหลังจากเมื่อวันที่ 17 มกราคม ที่ผ่านมา ได้เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งหลังจากการเข้าพบ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้นำพยานหลักฐานต่างๆ หรือข้อมูลว่า น้องโยโกะ ฆ่าตัวตาย มาให้กับทางตนดูแต่อย่างใด เช่น ผลการตรวจสอบ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเคยบอกว่ามีหลักฐานการสั่งซื้อไซยาไนด์ หรือผลการตรวจสอบลายนิ้วมือบนขวดไซยาไนด์ที่พบ และอื่นๆ อีกหลายประเด็น จึงยังคงสร้างความเคลือบแคลง สงสัย ให้ตนอยู่

นางกมลพัฒน์ กล่าวอีกว่า ในขณะนี้ มีสื่อโซเชียลมีเดียหลายสื่อที่พยายามขุดคุ้ยประวัติ หรือพฤติกรรมของแฟนน้องโยโกะ โดยเฉพาะล่าสุด สื่อโซเชียลได้นำคลิปวิดีโอคลิปหนึ่ง มาเปิดเผย ซึ่งภายในคลิป มีการพูดว่า “…วันนี้วันฮัลโลวีน มาเช็กน้องโยหน่อย น้องโยหนีเที่ยวหรือเปล่า เห็นว่านอนตั้งแต่ 10 โมงเช้า ตี 3 ยังไม่ตื่น เครื่องไม่ร้อน เบรกเย็นเจี๊ยบ ไม่ได้ใช้รถ ท่อไอเสียเย็นเจี๊ยบ ไม่ได้ใช้รถ ทำไมไม่ตื่น ตี 3 นอนกี่โมง หรือว่าน้องโยจะไปรถคนอื่น มันแปลกมากเลยนะ ต่อให้กินยานอนหลับ ตอนนี้ก็น่าจะตื่นแล้วสิ เออ น่าคิดนะอดนอนมาหลายวัน ไม่น่าใช่ กินยานอนหลับ อืมแปลก…” 

“…หลังจากได้ดูคลิปนี้ อยากถามเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า มีการเรียกเพื่อนชายของน้องโยโกะ มาสอบบ้างหรือไม่ มีการสอบในประเด็นไหนไปบ้างแล้ว โดยเฉพาะคลิปวิดีโอที่เพิ่งมีการเผยแพร่จากโซเชียลในครั้งนี้ด้วยว่า เป็นคลิปที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาไหน ถ่ายด้วยจุดประสงค์อะไร และถ้าเป็นวันฮัลโลวีน จะอยู่ในช่วงวันที่ 31 ตุลาคม ใกล้เคียงกับ น้องโยโกะ เสียชีวิต คาดว่าช่วงประมาณวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกเพื่อนชายมาสอบอย่างละเอียดด้วย…” นางกมลพัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย