จากกรณีที่คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) คดีหมูเถื่อน ภายใต้การกำกับของ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีดีเอสไอ และในฐานะรักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ นำโดย พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม และในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน ดำเนินการรับคดีพิเศษเพิ่มเติมอีก 2 คดี ได้แก่ คดีพิเศษที่ 126/2566 กรณีขบวนการนำเข้าสินค้าประเภทสัตว์สัตว์ (สุกร) เข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และได้นำออกไปจำหน่ายตามท้องตลาดแล้ว จำนวน 2,388 ตู้ และคดีพิเศษที่ 127/2566 กรณีขบวนการนำเข้านำเข้าสินค้าประเภทซากสัตว์ เข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิชอบด้วยกฎหมาย จำนวนกว่า 10,000 ตู้ เพื่อสอบสวนหาผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดสำหรับดำเนินคดีทางอาญาตามฐานความผิด ต่อมาได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอาญาออกหมายจับ 5 บุคคล ประกอบด้วย นายหลี่ เซิ่งเจียว หรือเฮียเก้า, นายหยาง ยา ซุง, นายกรินทร์ ปิยพรไพบูลย์, น.ส.นวพร เชาว์วัย และนายสมเกียรติ กอไพศาล ในฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560, พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558, ความผิดฐานอั้งยี่ซ่องโจร และข้อหาร่วมกันฟอกเงิน ก่อนมีการตบเท้าเข้ามอบตัวแล้ว 3 ราย ขณะที่เฮียเก้าได้มอบหมายให้ทนายความส่วนตัวประสานดีเอสไอขอเข้ามอบตัวในวันจันทร์ที่ 22 ม.ค. โดยจะลงเครื่องที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ เวลา 13.00 น. ส่วนบุตรชายเฮียเก้ายังไม่ได้ประสานขอมอบตัวแต่อย่างใด ตามที่มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 22 ม.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม และในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อน ว่า จากเดิมที่คณะพนักงานสอบสวนได้รับการประสานจากทนายความของนายหลี่ เซิ่งเจียว หรือเฮียเก้า ว่าในวันจันทร์ที่ 22 ม.ค. เวลา 13.00 น. จะเดินทางกลับจากประเทศจีน และลงเครื่องที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ เพื่อเข้ามอบตัวตามที่มีหมายจับของศาลอาญากับดีเอสไอในคดีพิเศษที่ 127/2566 หรือคดีตีนไก่สวมสิทธินั้น ล่าสุดทางทนายความได้แจ้งขอเปลี่ยนจากการลงเครื่องที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานดอนเมือง ในเวลา 13.50 น. แทน

ส่วนในขั้นตอนการรับตัวเฮียเก้าที่สนามบินดอนเมือง ยังคงขั้นตอนเดิม คือ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสะกดรอยและการข่าว ดีเอสไอ ภายใต้การอำนวยการของนายวิทวัส สุคันธรส ผอ.ศูนย์สืบสวนสะกดรอยฯ จะเข้าไปรับตัวผู้ต้องหาและอ่านหมายจับของศาลอาญา จากนั้นเมื่อรับตัวเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จะนำเฮียเก้ามาทำบันทึกจับกุมที่ชั้น 7 อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ก่อนนำส่งให้ตนเองในฐานะพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีแจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิของผู้ต้องหา แล้วจึงเข้าสู่ขั้นตอนการสอบปากคำ ซึ่งผู้ต้องหามีสิทธิที่จะให้การหรือไม่ให้การกับพนักงานสอบสวน รวมถึงจะปฏิเสธหรือรับสารภาพตามข้อหาทั้งหมดก็ได้ ทั้งนี้ ในการสอบปากคำเบื้องต้น พนักงานสอบสวนจะสอบถามข้อมูลส่วนตัว พฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องกับหมายจับ เช่น ความเป็นมาของการประกอบธุรกิจส่งขายตีนไก่ไปจำหน่ายต่างประเทศ ขั้นตอนการดำเนินธุรกิจ หุ้นส่วนทางการค้า บริษัทชิปปิ้งเอกชนที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น เพื่อนำข้อมูลที่ได้รับจากการสอบปากคำไปใช้ในการขยายผลต่อไป.