เมื่อวันที่ 25 ม.ค. พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.ห้วยขวาง เปิดเผยข้อมูลทางคดี ด.ต.เกียรติพงษ์ สุวรรณุศักดิ์ หรือดาบแป๊ะ ผบ.หมู่สืบสวน สน.สุทธิสาร ผู้ต้องหาใช้อาวุธยิงผู้อื่นถึงแก่ความตาย ว่า เบื้องต้นจากพยานหลักฐานและภาพกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุ รวมไปถึงผลการสอบปากคำพยานทั้ง 6 ปาก ให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีที่ส่วนมากให้ปากคำสอดคล้องกัน พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา ดาบแป๊ะ ทั้งหมด 3 ข้อหาคือ 1.ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 2.พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และ 3.ยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนนำตัวดาบแป๊ะ ฝากขังศาลอาญารัชดาแล้ว พร้อมคัดค้านการประกันตัว เพราะเกรงว่าจะเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานเนื่องจากเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่าง น.ส.บี และ นายชลัฐ เพื่อน ด.ต.เกียรติพงษ์ ที่อ้างว่าเป็นพ่อเลี้ยงลูกเลี้ยง และปมก่อเหตุ รวมทั้งเรื่องพฤติการณ์ระหว่างเกิดเหตุอยู่ในสำนวนไม่สามารถเปิดเผยได้

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่ามีคลิปเสียงที่ชายที่อ้างตัวว่าเป็นตร. ได้โทรฯขอเจรจาจ่ายเงินชดใช้เยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตเท็จจริงอย่างไร พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานถึงเรื่องคลิปดังกล่าว จะต้องตรวจสอบว่ามีคลิปเสียงดังกล่าวจริงหรือไม่ ส่วนประเด็นที่สังคมตั้งข้อสังเกตว่าตำรวจจะช่วยเหลือทางคดีหรือไม่นั้น ส่วนตัวยืนยันว่า ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา ยิ่งเป็นตำรวจ ยิ่งต้องทำคดีให้รอบคอบ ส่วนเรื่องเงินเยียวยาได้ให้คำแนะนำกับครอบครัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ให้ประกัน 3 แสน ‘ดาบแป๊ะ’ ยิงหนุ่มไรเดอร์ แม่ยอมรับลูกชายเมายาบ้า-ถือมีดไล่แทงตำรวจ

ขณะที่นางทอง อายุ 65 ปี แม่ของหนุ่มไรเดอร์ผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาที่ สน.ห้วยขวาง เพื่อติดต่อขอเอกสารรับร่างลูกชายที่โรงพยาบาลรามาธิบดี หลังถูกดาบแป๊ะยิงเสียชีวิตที่บริเวณหน้าบ้านย่านรัชดา โดยกล่าวว่า ตนได้พักอาศัยอยู่บ้านหลังดังกล่าว ด้วยกัน 3 คน มีตน สามี และนายหมอก ลูกชาย จนกระทั่งลูกชายได้ไปคบกับ น.ส.บี ที่ทำงานเป็นพริตตี้ พีอาร์ และได้พามาอาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว ประมาณ 1 ปี ซึ่งตนไม่ได้สอบถามถึงที่มาที่ไป หรือเรื่องทางครอบครัวของ น.ส.บี

“หลังจากคนในรถที่นั่งข้างคนขับเป็นตำรวจ สน.สุทธิสาร ชื่อดาบแป๊ะได้ชักอาวุธปืนออกมายิงใส่ลูกชาย 1 นัด จนกระสุนเจาะบริเวณลำคอลูกชายล้มลงทันที ตนกับสามีรีบวิ่งเข้าไปประคองลูกชาย พยายามร้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน และรีบวิ่งไปบอก น.ส.บี แต่ไม่ยอมลงมาไม่รู้เพราะสาเหตุอะไร จนลูกชายเสียชีวิตในอ้อมแขน” นางทอง กล่าว

นางทอง กล่าวต่อว่า หลังก่อเหตุดาบแป๊ะ และพ่อของ น.ส.บี ไม่ได้เข้ามาพูดคุยหรือขอโทษตน ยืนนิ่งๆ รอมอบตัวอยู่ตรงจุดเกิดเหตุ เช่นเดียวกันกับ น.ส.บี ที่เอาแต่หมกตัวอยู่บนห้องไม่ลงมาดูเหตุการณ์ ถึงขนาดที่ตนต้องวิ่งขึ้นไปตามอีกครั้งถึงจะยอมลงมา ตนจึงตั้งข้อสังเกตว่า ทั้งคู่ใช่พ่อเลี้ยง ลูกเลี้ยงกันจริงหรือไม่ หรืออาจจะเป็นเด็กเสี่ยหรืออย่างไรก็ไม่ทราบ.