เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 ก.พ. 2567 ที่รัฐสภา นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ออกมาเตือนโครงการดิจิทัลวอลเล็ต อาจขัดต่อข้อกฎหมายหลายข้อ จะทำให้มีช่องทางให้มีนักร้องไปร้องเรียนโครงการดังกล่าวได้ง่ายหรือไม่ ว่า มี ง่าย ถ้ากล้าทำ ตนก็ไม่รู้ ถือว่าเตือนแล้ว และขอบคุณที่ ป.ป.ช. เตือน คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้วย เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่ให้ปล่อยพรรคการเมืองหาเสียงจะพูดอะไรก็ได้ ถึงเวลาก็มาบอกว่าจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ อย่างโน้นอย่างนี้ แบบนี้ ถ้าตระบัดสัตย์ หรือโกหกประชาชนได้ แล้วคุณจะไม่ทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องอย่างอื่นได้หรือ คุณเอาแต่อำนาจ รวมหัวกันหาอำนาจ ทรยศเพื่อนฉีก MOU ขอให้ตระหนักไว้ และตนยังเป็นนักร้อง และนักตรวจสอบอยู่ ส่วนการแสดงบัญชีทรัพย์สินของรัฐมนตรีที่ผ่านมามีอะไรในกอไผ่ และมี สส. คนหนึ่งแจ้งมาว่าทำให้ สส. อีก 499 คน จะมีอะไรด้วยเช่นกัน เรื่องนี้ถ้าถึงเวลาเดี๋ยวจะมีลูกค้าส่งไปให้ที่ ป.ป.ช.

เมื่อถามว่า เรื่องเงินดิจิทัลวอลเล็ต จะร้องเรียนเองหรือไม่ นายเรืองไกร กล่าวว่า ร้องเองได้ ซึ่งเรื่องเงินดิจิทัลวอลเล็ตต้องเข้าใจนโยบายของรัฐบาลที่แถลง และต้องเข้าใจรัฐธรรมนูญ การจ่ายเงินแผ่นดิน รวมถึงต้องเข้าใจกฎหมายวินัยการเงินการคลัง วิธีงบประมาณ ซึ่งตนได้เขียนเรื่องนี้เตือนนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ไปแล้ว 4 แผ่น ซึ่งเป็นข้อกฎหมายล้วนๆ และตนไม่แปลกใจที่คณะกรรมการกฤษฎีกา และ ป.ป.ช. ให้ความเห็นในครั้งนี้ ซึ่งเงินแผ่นดินท่านจะเอาไปทำอะไร เราทุกคนจะเป็นคนใช้หนี้ เมื่อไหร่ที่ปิดงวด วันที่  30 ก.ย. ตัวนี้จะถูกรับรู้เป็นขาดทุน เหมือนจำนำข้าว ซึ่งจำนำข้าวยังเหลือสต๊อกข้าว

“แต่เรื่องนี้ถ้าไปแล้วจะหายเลย กว่าคุณจะได้ภาษีกลับมา ถ้าข้ามงวดบัญชีปีงบประมาณจะเป็นผลขาดทุนทันที และย้ำว่าเตือนด้วยความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์จริงๆ ภาษาพระเรียกว่าพึงสังวร ภาษาชาวบ้านเรียกว่าสำเหนียกไว้ว่า สิ่งต่างๆ เหล่านี้ ควรจะปฏิบัติหรือไม่ปฏิบัติ” นายเรืองไกร กล่าว

เมื่อถามว่า จะมีโอกาสจะไปร้องด้วยตนเองหรือไม่ นายเรืองไกร กล่าวว่า “แผลยังไม่เกิด ก็ยังไม่ต้องทายา แต่ถ้าทำเข้าข่ายความผิด ก็ใช้กฎหมาย ป.ป.ช. ได้เลย ไม่ต้องห่วง ทำให้ แต่สิ่งที่ผมทำ ผมกล่าวหา ผมจะไม่ใช้อารมณ์ ไม่ใช้ความเห็นเหมือนหลายๆ คน ไปยื่นคำร้องว่าผิดนั่นผิดนี่ ซึ่งรัฐบาลก็มีสิทธิแก้ข้อกล่าวหาได้ เจ้าหน้าที่มีหน้าที่ตรวจสอบก็ตรวจสอบไป จะถูกจะผิดก็อยู่ที่ฟังคำตัดสิน”

เมื่อถามว่า ถ้ามีการร้องและผิดจริง จะถึงกับหลุดจากตำแหน่งเลยหรือไม่ นายเรืองไกร กล่าวว่า อยู่ที่ดุลพินิจ ซึ่งกรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในกรณีของนายถวิล เปลี่ยนศรี สว. ศาลปกครองสูงสุดว่าอย่างไร ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีรักษาการ ภายหลังยุบสภา.