เมื่อวันที่ 8 ก.พ. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพูดคุยกับ “นายนนท์” หัวหน้างานของช่างกิต และนางสาวพร ที่มีความสนิทสนมกับทั้งคู่ อีกครั้ง ภายหลังจากเมื่อวานนี้พบว่า นางสาวพร พยายามกระหน่ำโทรศัพท์หานายนนท์ หลายสายขณะออกรายการโหนกระแส

นายนนท์ เล่าว่า นางสาวพร ได้โทรศัพท์มาหาตนตั้งแต่ช่วงที่ออกรายการโหนกระแส แต่เป็นเบอร์แปลก ซึ่งเป็นเบอร์ใหม่ของพรและตนก็ไม่รู้ แต่เมื่อโทรฯ กลับไป พรก็ขอให้ตนช่วยเป็นพยานปากเอกให้ ขอให้ช่วยบอกตำรวจว่าตนไม่รู้จักและไม่เคยเห็นรถคันที่ช่างกิตนำไปใช้ในวันก่อเหตุ แต่ก็ไม่ได้รับปากว่าจะไปเป็นพยานให้หรือไม่ และก็บอกพรไปด้วยว่าจะต้องนำข้อมูลตรงนี้ไปบอกกับตำรวจ

น่าแปลกใจคือหลังจากวางสายพรปุ๊บ ตำรวจโทรฯ กลับเข้ามาหาตนทันที โดยขอให้ตนได้เข้าไปให้ปากคำกับตำรวจในประเด็นเดียวกันนี้ ตนมีคลิปบันทึกเสียงการสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับพร แต่ตำรวจขอยังไม่ให้เปิดเผยข้อมูลใดๆ กับสื่อมวลชน ซึ่งตนยืนยันที่จะพูดความจริงและให้ข้อมูลกับตำรวจตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

นอกจากนี้ นายนนท์ ยังเปิดแชตข้อความให้ดูถึงในช่วงวันแรกวันที่ตามหาฆาตกร วันที่ตำรวจพบภาพจากกล้องวงจรปิด พบรถต้องสงสัยคันสีแดงที่ช่างกิตใช้ก่อเหตุ ซึ่งพรได้ทักแชตมาให้ตนโทรฯ กลับเพื่อจะพูดคุยถึงประเด็นนี้ แต่ตนติดส่งสินค้าให้กับลูกค้าอยู่ เมื่อตนโทรฯ กลับไป พรก็ได้ถามเรื่องรถ เรื่องคดีความ เรื่องหมายจับ และยังถามตนด้วยว่ารู้ไหมว่าใครก่อเหตุ และยังบอกด้วยว่าสงสัยพรจะเป็นหนึ่งในผู้ถูกออกหมายจับ ตนก็ยังแปลกใจอยู่ว่าทำไมถึงคิดแบบนั้น แต่ก็คิดว่าคงตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ที่ตั้งข้อสังเกตคือ พรไปบ้านช่างกิตทุกวันก็ต้องเห็นรถคันก่อเหตุสีแดงคันนี้ และพรเองก็เคยนั่งรถคันนี้ด้วย เหตุใดจึงไม่ยอมให้ข้อมูลหรือบอกตำรวจตั้งแต่วันแรกที่เห็นคลิป หากบริสุทธิ์ใจตั้งแต่แรกบอกตำรวจไปก็จบแล้ว

ส่วนเรื่องกรมธรรม์ที่ผู้เสียชีวิตทำประกันเอาไว้ ตนไม่เคยทราบมาก่อน ที่ผ่านมาทั้งช่างกิตและพรไม่เคยมาปรึกษาเรื่องผลประโยชน์ที่จะได้รับจากการทำประกัน ตนเห็นตามข่าวจำนวนเงินก็เยอะอยู่