เมื่อเวลา 09.20 น. วันที่ 12 ก.พ. ที่ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังพูดคุยกับทาง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เกี่ยวกับการแก้ปัญหายาเสพติด เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ว่า มีการพูดคุยกันหลายเรื่อง ทั้งเรื่องสวัสดิการของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง เนื่องจากพื้นที่ยังแออัดในสนามบิน เพราะตอนนี้ทำงานหนัก มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยอะ ก็ต้องดูแลเรื่องพื้นที่ให้พักผ่อนได้ชั่วคราว รวมถึงพูดคุยเรื่องแฟลตตำรวจด้วย ซึ่งในสัปดาห์นี้จะไปตรวจดูแฟลตตำรวจ และจะมีการทำแผนระยะยาวในการให้ความมั่นใจแก่คนที่เข้ามาเป็นตำรวจแล้วว่าจะรับการดูแลที่ดี

เมื่อถามถึงกรณีราชกิจจานุเบกษาออกประกาศกฎกระทรวงกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ พ.ศ. 2567 ไม่เกิน 5 เม็ดให้ถือเป็นผู้เสพ จนกลายเป็นประเด็นดราม่าในโซเชียลว่าดูมากเกินไปกับสถานการณ์ยาเสพติดที่ค่อนข้างรุนแรง โดยนายกฯ ย้อนถามว่า ดูมากเกินไปหมายความว่าอย่างไร จำนวนเม็ดที่มากเกินไปใช่หรือไม่ 5 เม็ด ไม่ควรเป็นผู้เสพใช่หรือไม่ 

เมื่อถามต่อว่าคนมองว่า 5 เม็ด เยอะเกินไปสำหรับผู้เสพ เพราะก่อนหน้านี้มีการเสนอแค่เม็ดเดียว นายกฯ กล่าวว่า มันมากเกินไปใช่ไหม อันนี้ต้องลองดูก่อนแล้วกัน เพราะปัจจุบันนี้เราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เรื่องคนเสพจะ 5 เม็ด 3  เม็ด หรือ 1 เม็ด ตนว่ามันไม่ควรจะมีอยู่แล้ว ตรงนี้ก็ลองดูก่อนแล้วกัน ไปบำบัดแก้ไขกันไป 

เมื่อถามอีกว่า จะต้องมีมาตรการปฏิบัติการพิเศษเพื่อตัดวงจรยาเสพติดหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติอยู่แล้ว เรื่องยาเสพติดเราไม่ได้ทำแค่เรื่องประกาศว่า 5 เม็ด หรือถ้าเกิดดูแล้วว่าไม่เหมาะสม เดี๋ยวก็จะเปลี่ยนแปลงใหม่ ไม่ใช่แค่เรื่องนี้อย่างเดียว เรื่องการตัดวงจรการค้าที่ข้ามมาจากชายแดน หรือการบำบัดผู้ป่วยและผู้เสพที่เป็นผู้ป่วย ไม่ใช่เป็นผู้ผิด หากบำบัดออกมาก็มีการจัดหาอาชีพคืนสู่สังคมที่เหมาะสม ซึ่งเรื่องของยาบ้าที่จับมาหลายสิบล้านเม็ด หรือหลายร้อยล้านเม็ดมา ซึ่งระยะเวลาการทำลายยาเสพติดจะทำให้เวลาสั้นลง เพื่อให้ความแคลงใจของสังคมลดน้อยลง ย้ำว่ามีการแก้ไขปรับปรุงตลอดเวลา.