เมื่อวันที่ 11 เม.ย. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่โลกออนไลน์แชร์เรื่องราวของนักการเมืองหญิงใน จ.สุโขทัย ชื่อย่อ ป. มีความสัมพันธ์ลับกับพระ ว่า นักการเมืองหญิงคนดังกล่าวเป็นอดีตผู้สมัคร สส. ของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งพรรคได้รับทราบข้อเท็จจริงตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา ทั้งนี้พรรคไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้ติดตามเก็บข้อมูลในทันที เนื่องจากเห็นว่าบุคคลที่เป็นสมาชิกพรรคจะต้องปฏิบัติตนอยู่ในกรอบจริยธรรม คุณธรรม ศีลธรรม และต้องเป็นแบบอย่างที่ดีในเรื่องสถาบันครอบครัว โดยในข้อบังคับพรรค หมวด 4 มาตรฐานทางจริยธรรมของกรรมการบริหารพรรค และสมาชิกพรรค ข้อที่ 26 กำหนดให้สมาชิกพรรคต้องปฏิบัติตนอยู่ในกรอบจริยธรรม คุณธรรม ศีลธรรม ทั้งนี้ หัวหน้าพรรคได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบข้อเท็จจริง ซึ่งประกอบด้วย ตน นายธีรชาติ ปางวิรุฬห์รักษ์ อดีต สส.ชุมพร และนายชริน เลี้ยงกาญจนกุล ผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อ ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ให้เกิดความกระจ่าง ซึ่งจะดำเนินการให้เสร็จภายใน 3 วัน จากนั้นจะได้รายงานผลต่อคณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณาต่อไป ซึ่งถ้าพบว่าสมาชิกพรรคคนนี้กระทำการที่ฝ่าฝืนข้อบังคับพรรค ก็จะมีโทษถึงขั้นพ้นจากความเป็นสมาชิกพรรค

นายราเมศ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าบุคคลดังกล่าวเป็นสมาชิกพรรค ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค. 2566 จนถึงปัจจุบัน และหลังจากเสร็จสิ้นการเลือกตั้ง สส. ครั้งที่ผ่านมา ก็ไม่ได้ร่วมทำกิจกรรมทางการเมืองใดๆ กับพรรคฯ และไม่ได้มีตำแหน่งใดๆ ในพรรค ทั้งนี้เราได้พยายามติดต่อสมาชิกพรรครายนี้ 3 ครั้ง แต่ไม่สามารถติดต่อได้ และมีความจำเป็นติดต่อกับสามีของหญิงคนดังกล่าวเพื่อสอบถามความจริงด้วย ซึ่งเท่าที่ทราบสามีเป็นนักธุรกิจ เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน หากพบว่ามีการฝ่าฝืนจริยธรรม และศีลธรรม คณะกรรมการบริหารพรรคก็มีอำนาจในการขับออกจากสมาชิกพรรค

“นี่คือความรับผิดชอบในฐานะที่เป็นสถาบันทางการเมือง เมื่อมีสมาชิกพรรคกระทำการไม่ถูกต้อง พรรคก็ต้องคัดกรองบุคคล ซึ่งในข้อบังคับพรรคได้ระบุความชัดเจนไว้ว่า สมาชิกพรรคจะต้องปฏิบัติตนอยู่ในกรอบจริยธรรม คุณธรรม ศีลธรรม และวางตนเป็นที่เชื่อถือ ศรัทธาของประชาชน ข้อบังคับพรรคยังให้ความสำคัญในเรื่องการเป็นแบบอย่างที่ดีในการเสริมสร้างสถาบันครอบครัว เมื่อมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับสมาชิก พรรคจึงต้องดำเนินการตามกระบวนการอย่างเต็มที่เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าพรรคให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวอย่างแท้จริง” นายราเมศ กล่าว

เมื่อถามว่า จากนี้ไปในการคัดเลือกบุคคลเป็นผู้สมัคร สส. ของพรรค จะต้องตรวจสอบด้วยหรือไม่ว่าบุคคลมีเรื่องชู้สาวเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ อย่างไร นายราเมศ กล่าวว่า ต้องยอมรับเรื่องส่วนตัวเป็นเรื่องยากที่จะไปสอบ หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่พรรคต้องรับผิดชอบในฐานะที่เป็นสถาบันการเมือง ทุกองค์กรให้ความสำคัญพรรค ต้องยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น และหากลไกป้องกันมีมาตรการชัดเจนเด็ดขาด หัวหน้าพรรคก็เน้นย้ำเรื่องนี้มาโดยตลอด เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคต่อไป

“เมื่อมีกรณีเช่นนี้เกิดขึ้น ในฐานะพรรคการเมืองต้องรับผิดชอบ พูดความจริงกับสังคมเพื่อให้สังคมได้รับทราบ แต่ต้องเป็นความรับผิดชอบที่จริงใจ มีกระบวนการอย่างแท้จริงเพื่อให้สังคมเห็นว่า เราเป็นสถาบันทางการเมืองอาสารับใช้พี่น้องประชาชน หากเกิดเรื่องไม่ชอบมาพากล เรื่องที่เกี่ยวกับศีลธรรม และจริยธรรม ถ้าไม่ให้ความสำคัญพี่น้องประชาชนจะไว้วางใจและศรัทธาเราได้อย่างไร” นายราเมศ กล่าว