จากกรณี น.ส.ชลลดา มุธุรงศ์ หรือน้องนุ่น อายุ 27 ปี หายไปตัวอย่างเป็นปริศนา หลังลงจากรถของสามีเวลากลางดึกของวันที่ 18 ก.พ. ที่ผ่านมา หลังจากกลับมาจากฉลองวันเกิดของสามี ซึ่งทางกลุ่มเพื่อนได้พากันโพสต์ตามหา แต่ยังไร้วี่แวว

ต่อมาพบโครงกระดูกมนุษย์ถูกเผา ใน ต.หนองโพรง อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นจุดใกล้เคียงกับสัญญาณพิกัด GPS โทรศัพท์มือถือสุดท้าย ของ น.ส.ชลลดา โดยที่ข้อมือพบสร้อยคอทองคำ คล้ายกับที่น้องนุ่น สวมใส่ในวันที่หาย กระทั่ง นายศิริชัย รักทอง สามีน้องนุ่น ได้รับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่า สาเหตุจากทะเลาะกัน นั้น

เปิดภาพวงจรปิดวินาที ‘น้องนุ่น’ ก่อนโดนฆ่า ถูกผัวหนุ่มทำร้ายอย่างโหดเหี้ยมอยู่ริมถนน
สามี ‘น้องนุ่น’ ปริปากรับสารภาพ หินทุบหัวยัดศพใส่เก๋งเผาอำพรางที่ปราจีนฯ
ด่วน! พบโครงกระดูกถูกเผาอำพราง คาดเป็นศพของ ‘น้องนุ่น’ ที่หายตัวปริศนา

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนนายศิริชัย จะยอมจำนนด้วยหลักฐาน และรับสารภาพนั้น ก่อนหน้า 1 วัน ได้ทำทีอุ้มลูกน้อย เข้าพบตำรวจ พร้อมกับตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จเป็นเรื่องเป็นเรื่องให้ตำรวจ และแม่ของนุ่น ฟังว่า ตนเองนั้น อยากให้น้องนุ่นกลับมา ขอให้เลิกน้อยใจเรื่องพวกนี้ได้แล้ว ถือว่าเห็นแก่ลูก อ้างว่าเวลาทะเลาะกันก็จะออกจากบ้านไปแบบนี้เสมอ ครั้งนี้ที่ น้องนุ่น หายไป เพราะว่าตนพูดประชด และไม่รู้ว่าจะติดต่อยังไง

นอกจากนี้ นายศิริชัย ยังบอกอีกว่า ตนจะเป็นฝ่ายง้อน้องนุ่น ตลอดตั้งแต่มีลูก เวลาทะเลาะกันน้องนุ่นก็มีจิกหัวตนบ้างมีตีคืนบ้าง แต่ตนก็ยอมมาตลอด ซึ่งเคยมีทะเลาะถึงขั้นลงไม้ลงมือกันเลือดตกยางออก แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้ทำอีกเลย เคยแจ้งความไว้แล้วนานแล้ว จนเป็นคดีติดตัวของตนในคดีทำร้ายร่างกาย

ท้ายที่สุดคำพูดของนายศิริชัย ทั้งหมดที่บอกเล่าด้วยความเท็จนั้น ก็ไม่ช่วยให้นายศิริชัย รอดจากการเค้นสอบปากคำ และพยานหลักฐานต่างๆ จนต้องยอมจำนนรับว่าเป็นคนลงมือฆ่าน้องนุ่น เอง.