สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 27 ก.พ. ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ กล่าวถึงความคืบหน้า ของการเจรจาหยุดยิงครั้งใหม่ในฉนวนกาซา เพื่อยับยั้งความรุนแรงของสงครามซึ่งยืดเยื้อตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. 2566 ว่าหลายฝ่ายยังคงร่วมหาทางผลักดันให้เกิดข้อตกลงโดยเร็วที่สุด ซึ่งหนึ่งในความคืบหน้าสำคัญ คือการที่อิสราเอล “แสดงความพร้อม” ที่จะ “ระงับปฏิบัติการทางทหารทั้งหมด” ตลอดเดือนรอมฎอน หรือการถือศีลอดของชาวมุสลิม ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 10 มี.ค. นี้


ขณะเดียวกัน ไบเดนกล่าวว่า การเริ่มข้อตกลงสงบศึกครั้งใหม่ระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส น่าจะเกิดขึ้นได้ “ภายในช่วงสุดสัปดาห์นี้” หรือ “ภายในวันจันทร์ที่ 4 มี.ค.”


แม้สหรัฐแสดงจุดยืนชัดเจนว่าสนับสนุนอิสราเอล ตั้งแต่ช่วงต้นของสงคราม แต่การที่จำนวนผู้เสียชีวิตจากการสู้รบยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้นไม่หยุด และใกล้ผ่านหลัก 30,000 ราย เฉพาะความสูญเสียในฉนวนกาซา ทำให้รัฐบาลวอชิงตันเผชิญกับแรงเสียดทานอย่างหนักจากนานาประเทศด้วย


ไบเดนกล่าวถึงเรื่องนี้ ว่ารัฐบาลวอชิงตันเน้นย้ำกับอิสราเอล ให้เพิ่มความจริงจังกับเรื่องดังกล่าวมากกว่านี้ โดยมีการเตือนว่า หากแนวโน้มของความสูญเสียยังเป็นเช่นนี้ต่อไป อิสราเอลสุ่มเสี่ยงสูญเสียความสนับสนุนจากประชาคมโลก ซึ่งผู้นำสหรัฐยืนยันว่า อิสราเอลให้คำมั่นอย่างหนักแน่น รวมถึงการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เป้าหมายในเมืองราฟาห์ ทางตอนใต้สุดของฉนวนกาซา ก่อนเปิดฉากปฏิบัติการทางทหารภาคพื้นดิน กับสมาชิกกลุ่มฮามาสที่ยังหลงเหลืออยู่.

เครดิตภาพ : AFP