เมื่อวันที่ 29 ก.พ. น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย (มท.) กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ได้มีนโยบายช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยงานรับลงทะเบียน และจัดกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอบสนับสนุนการเป็นตัวกลางเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้ ณ วันที่ 28 ก.พ. 67 ได้มีลูกหนี้นอกระบบลงทะเบียนแล้ว 149,833 ราย มูลหนี้รวม 11,097.30 ล้านบาท เจ้าหนี้ 121,688 ราย เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยแล้ว 27,870 ราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 17,848 ราย ช่วยให้มูลหนี้ลดลงได้ 761.16 ล้านบาท จาก 2,545.02 ล้านบาท เหลือ 1,783.86 ล้านบาท และการลงทะเบียนจะมีถึงวันที่ 29 ก.พ. นี้ ซึ่งเป็นวันสุดท้าย

โฆษก มท. กล่าวต่อว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ได้ให้นโยบายกับเจ้าหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยว่า หลังจากนี้ขอให้เร่งรัดการจัดการฐานข้อมูล ที่ขณะนี้ยังพบประเด็นปัญหาข้อมูลไม่สมบูรณ์อยู่พอสมควร เช่น การไม่สามารถระบุตัวเจ้าหนี้ได้ การติดต่อผู้ลงทะเบียนไม่ได้ การยืนยันถิ่นที่อยู่ทั้งลูกหนี้ เจ้าหนี้ ให้สมบูรณ์ เพื่อให้สามารถนำลูกหนี้และเจ้าหนี้เข้าสู่กระบวนการเจรจาไกล่เกลี่ยโดยเร็ว เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถรวบรวมข้อมูลได้ครบถ้วนและเริ่มกระบวนการไกล่เกลี่ยได้ ต้องขอให้ประชาชนที่ได้ลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือตามโครงการได้ให้ความสำคัญและร่วมมือกับการยืนยัน หรือตอบกลับข้อมูลกรณีที่ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ปกครอง ทั้งการตรวจสอบยืนยันข้อมูลผ่านแอปพลิเคชัน ThaiD หรือการตอบข้อมูลทางเอกสาร หรือตอบข้อมูลกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่ลงพื้นที่สำรวจเพิ่มเติมในบางกรณีด้วย พร้อมกับให้ความร่วมมือเข้ากระบวนการไกล่เกลี่ยเมื่อได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ เพราะหากมีการตรวจสอบพบว่าการไม่เข้าไกล่เกลี่ยนั้น เกิดจากพฤติการณ์กระทำผิดกฎหมาย ฝ่ายปกครองจะส่งข้อมูลต่อไปยังตำรวจ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อไป

“หลังจากปิดลงทะเบียนในวันที่ 29 ก.พ. แล้ว รมว.มหาดไทย อยากให้กระบวนการไกล่เกลี่ยดำเนินไปได้มากที่สุด เพื่อให้ประชาชนที่กำลังเดือดร้อนได้รับความช่วยเหลือโดยเร็ว และท่านยังได้กำชับเจ้าหน้าที่ว่า ในฐานะที่กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานกลางในการดึงทุกฝ่ายมาไกล่เกลี่ย ขอให้ใช้โอกาสนี้ในการให้ข้อมูล แนะนำ เกี่ยวกับโครงการสนับสนุนของหน่วยงานอื่นๆ เช่น โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำโดยธนาคารของรัฐ ของกระทรวงการคลัง โครงการยกระดับฝีมือแรงงาน หรือการจัดหางานของกระทรวงแรงงาน การฝึกอาชีพของกระทรวง พม. เพื่อให้ลูกหนี้มองเห็นช่องทางการจะลงทุนประกอบอาชีพ สร้างรายได้ มีเงินชำระหนี้ ไม่กลับไปเป็นหนี้อีก เป็นการแก้ไขปัญหาที่ครบวงจรตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

โฆษก มท. กล่าวว่า นายอนุทิน ยังได้ขอให้ฝ่ายปกครองประสานการทำงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สำนักงานอัยการสูงสุดอย่างใกล้ชิด เพื่อดำเนินการกับกลุ่มผู้ที่ไม่ให้ความร่วมมือเข้ากระบวนการเจรจาไกล่เกลี่ยตามกฎหมาย และที่ยังมีพฤติการณ์กระทำผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยกู้โดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ทวงหนี้ด้วยการข่มขู่ ใช้ความรุนแรง และกระทำผิดแบบเป็นขบวนการ ขยายผลจนเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ซึ่งขอให้ฝ่ายปกครองแต่ละพื้นที่ ติดตามและส่งข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสืบสวนสอบสวน จับกุมและดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดด้วย.