เมื่อวันที่ 5 มี.ค. ศูนย์วิทยุ 191 ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีคนผูกคอเสียชีวิตภายในบ้าน 2 ราย เป็นพ่ออายุ 38 ปี และลูกสาววัย 2 ขวบ ที่บ้านพักใน อ.เมือง จ.สุรินทร์ จึงได้ประสานไปยัง พ.ต.ท.ณัฐพล ศรีน้อย สว.สอบสวน สภ.เทนมีย์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และแพทย์เวรนิติเวชสุรินทร์ ของโรงพยาบาลสุรินทร์ กับอาสาสมัครกู้ภัยสุรินทร์ รีบรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ภายในห้องนอนพบร่างผู้เสียชีวิต 2 ราย ห้อยโตงเตงคู่กันที่คอพบเชือกไนลอนสีขาวผูกห้อยกับฝ้าเพดานของห้องนอนโดยได้งัดฝ้าเพดานให้แตกเป็นช่องแล้วนำเชือกขึ้นไปผูกกับโครงเหล็กหลังคาบ้าน

ภายในห้องนอนที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบจดหมายลาตายที่เขียนด้วยลายมือมีข้อความว่า “ฟิวพากันทำงานให้เสร็จนะจะได้ตัง จ่ายค่าแรงให้พ่อด้วย ที่เหลือฟิวเอาไว้ใช้นะ พ่อไม่มีแรงทำอะไรแล้ว ขอลาตาย บอกตากับยายด้วยพ่อขอโทษ พ่อมันผิดไปทุกอย่าง แล้วก็ขอให้ทุกคนอโหสิกรรมให้พ่อด้วย ขอเป็นรักสุดท้าย อโหสิกรรมให้หนิงกับนิทานด้วนนะครับ”

น้องสาวภรรยาผู้เสียชีวิต ให้การว่า ผู้เสียชีวิตและภรรยาได้แยกทางกันและภรรยาได้ไปทำงานที่กรุงเทพฯ โดยผู้เสียชีวิตอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้กับลูกเพียง 2 คน และทางญาติๆ ก็พยายามจะขอเอาลูกแยกออกมาเพื่อจะดูแลให้ แต่ผู้เสียชีวิตไม่ยอมเพราะว่าผู้เสียชีวิตเป็นคนรักลูกมาก ซึ่งผู้เสียชีวิตคิดจะฆ่าตัวตายมา 3 ครั้ง มีทั้งพยายามผูกคอ และขับรถพุ่งลงคลอง แต่ก็ช่วยไว้ได้ทันทุกครั้ง โดยครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 มาผูกคอเสียชีวิตพร้อมกับลูกสาว

ด้าน พ.ต.ท.ณัฐพล ได้ทำการบันทึกภาพเป็นหลักฐานพร้อมกับชันสูตรพลิกศพ ซึ่งสภาพภายในห้องนอนไม่มีการรื้อค้น พร้อมกับไม่พบบาดแผลการถูกทำร้าย พบเพียงร่องรอยของการถูกเชือกรัดที่คอ คาดว่าผู้เสียชีวิตน่าจะเสียชีวิตมาประมาณ 6 ชม. เจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์เวรจึงได้ส่งมอบร่างผู้เสียชีวิตทั้งสองให้กับญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป.