สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงดาการ์ ประเทศเซเนกัล เมื่อวันที่ 9 มี.ค. ว่า คณะรัฐมนตรีเซเนกัล มีมติให้จัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งใหม่ ในวันที่ 24 มี.ค. นี้ ซึ่งจะเป็นการลงคะแนนที่เกิดขึ้น ก่อนประธานาธิบดีมากี ซาล ครบวาระการดำรงตำแหน่งสองสมัย หรือ 12 ปี ในวันที่ 2 เม.ย. นี้


ขณะที่สภาแห่งชาติเซเนกัล มีมติด้วยเสียงข้างมาก 94 ต่อ 49 เสียง ผ่านกฎหมายนิรโทษกรรมผู้ประท้วงทางการเมือง ซึ่งลุกฮือต่อต้านรัฐบาล โดยกฎหมายครอบคลุมผู้ที่มีส่วนร่วม กับการประท้วงระหว่างวันที่ 1 ก.พ. 2564 ถึงวันที่ 25 ก.พ. 2567

ประชาชนชุมนุมในกรุงดาการ์ เมืองหลวงของเซเนกัล เรียกร้องให้มีการเลือกตั้งประธานาธิบดี ก่อนวันที่ 2 เม.ย. 2567


ทั้งนี้ เซเนกัล ซึ่งเป็นประเทศเดียวในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก ที่ไม่เคยอยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาลทหาร นับตั้งแต่ได้รับเอกราชจากฝรั่งเศส เมื่อปี 2503 เผชิญกับวิกฤติการเมืองครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ เมื่อซาลสั่งเลื่อนการเลือกตั้งผู้นำคนใหม่ ออกไปจากกำหนดการเดิม คือเมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยให้เหตผุลเกี่ยวกับ “การหาทางประนีประนอมความขัดแย้ง” ระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติ กับฝ่ายตุลาการ คือ ศาลรัฐธรรมนูญ ที่ตอนนั้นตัดสิทธินักการเมืองหลายคน


อย่างไรก็ตาม ต่อจากนั้น ศาลรัฐธรรมนูญของเซเนกัลมีคำพิพากษา ว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งใหม่ ต้องเกิดขึ้นก่อนวันที่ 2 เม.ย. ที่จะถึง


ด้านคณะกรรรมการการเลือกตั้งเซเนกัล กำหนดช่วงเวลาหาเสียง ระหว่างวันที่ 9-22 มี.ค. นี้ หรือตลอดเดือนรอมฎอน ซึ่งเป็นการถือศีลอดของชาวมุสลิม


ส่วนสหภาพแอฟริกา (เอยู) สหภาพยุโรป (อียู) รัฐบาลสหรัฐและฝรั่งเศส ต่างออกมาแสดงความยินดี ที่เซเนกัลเตรียมจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดี เพื่อคลี่คลายวิกฤติการเมือง โดยเอยูจะส่งคณะผู้สังเกตการณ์ ลงพื้นที่ตามคูหาเลือกตั้งในวันลงคะแนนด้วย.

เครดิตภาพ : AFP