นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้เป็นสักขีพยานการลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ระหว่างห้างสรรพสินค้า บิ๊กซี ฮ่องกง และผู้ส่งออกไทย 10 บริษัท เพื่อขยายโอกาสการส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภคสู่ตลาดฮ่องกง โดยเฉพาะการสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการรายย่อย เอสเอ็มอี สินค้าโอทอป และสินค้าเกษตรแปรรูป รวมทั้งสินค้าที่ได้รับตราสัญลักษณ์ ไทยแลนด์ ทรัสต์ มาร์ก และไทย ซีเล็คท์ บนผลิตภัณฑ์ ไปขายในต่างแดน

“สินค้าไทยที่นำมาจัดการส่งเสริมการขายจำนวนมาก อาทิ ผลไม้ ข้าว สินค้าอุปโภคบริโภค ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากชาวฮ่องกงเป็นอย่างดี ที่เข้ามาชมและเลือกซื้อสินค้า และได้เยี่ยมชมการจำหน่ายสินค้าไทยในห้าง พบว่า มีสินค้าไทยจำหน่ายเป็นจำนวนมาก ซึ่งปัจจุบันมีจำหน่ายแล้ว 4,200 รายการ และหากรวมการลงนาม เอ็มโอยูในครั้งนี้ จะมีสินค้าไทยเพิ่มเข้าไปอีก 250 รายการ”

นอกจากนี้ ได้หารือกับนายแอลเจอร์นอน เยา รมว.พาณิชย์และการพัฒนาเศรษฐกิจฮ่องกง  ถึงแนวทางการส่งเสริมเอสเอ็มอีไทย  แลกเปลี่ยนข้อมูลสินค้าและบริการ ในการเปิดตลาดฮ่องกง และเชิญชวนผู้ประกอบการฮ่องกงที่มีศักยภาพในการขยายธุรกิจสู่ภูมิภาคอาเซียน โดยใช้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้าและการลงทุน   ขณะที่การร่วมงานฮ่องกง อินเตอร์เนชันแรล ฟิล์ม แอนด์ ทีวี มาร์เก็ต ซึ่งเป็นงานซื้อขายภาพยนตร์ใหญ่ที่สุดของเอเชีย  กระทรวงพาณิชย์ได้นำผู้ประกอบการเข้าร่วม 27 บริษัท เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายภาพยนตร์และแอนิเมชัน 9 บริษัท รายการและละครโทรทัศน์ 10 บริษัท บริการเกี่ยวเนื่องกับภาพยนตร์และวีดิทัศน์ 8 บริษัท ซึ่งคาดว่าจะเกิดการซื้อขาย ร่วมมือกันระหว่างกันจำนวนมาก

นายภูมิธรรมกล่าวว่า ยังได้หารือถึงการยกระดับความร่วมมือระหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และองค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง ที่จะมีการลงนามเอ็มโอยู เพื่อสร้างความร่วมมือใน 3 ด้าน ได้แก่ การแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการค้า  การสนับสนุนกิจกรรมการค้าความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมเอสเอ็มอี และความร่วมมืออีคอมเมิร์ซ ตลอดจนขอความร่วมมือฮ่องกง ในการสนับสนุนและจัดการซอฟท์ พาวเวอร์ของไทยให้มากขึ้น ทั้งอาหาร ผลไม้ ข้าวหอมมะลิไทย และธุรกิจบริการไทย เช่น โรงพยาบาล โรงแรม ให้ผู้บริโภคชาวฮ่องกงได้รับทราบ