จากสถานการณ์สงครามภายในเมียนมา กับกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ที่มีมาอย่างต่อเนื่องหลายเดือน และล่าสุด กองกำลังกะเหรี่ยง เคเอ็นยู บุกยึดจังหวัดเมียวดี ของเมียนมา ตรงข้ามแม่สอดสำเร็จ ทำให้หลายคนสงสัยว่า จะมีผลกระทบต่อการค้า เศรษฐกิจไทยอย่างไร เราไปติดตามกัน

ไทยกับเมียนมา ถือเป็นประเทศที่มีการค้าชายแดนร่วมกันใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อส่องตัวเลขการค้าชายแดน ไทย-เมียนมา ปี 2566 จากกรมการค้าต่างประเทศ ค้าร่วมกันมากถึง 257,620 ล้านบาท ไทยขาดดุลการค้า 751 ล้านบาท โดยมีด่านชายแดนสำคัญ ได้แก่

  • ด่านแม่สอด ไทยส่งออก 93,747 ล้านบาท นำเข้า 13,311 ล้านบาท
  • รองลงมาเป็น ด่านสังขละบุรี ส่งออก 1,292 ล้านบาท นำเข้า 71,456 ล้านบาท
  • ด่านประจวบคีรีขันธ์ ส่งออก 1,008 ล้านบาท นำเข้า 36,856 ล้านบาท
  • ด่านระนอง ส่งออก 15,477 ล้านบาท นำเข้า 5,876 ล้านบาท  
  • สินค้าไทยส่งออกส่วนใหญ่ เป็น น้ำมันดีเซล น้ำมันสำเร็จรูป และน้ำมันปาล์ม ขณะที่สินค้านำเข้า ก๊าซธรรมชาติ ธัญพืช และสัตว์น้ำ

ส่วนสถิติมูลค่าการค้าชายแดนไทย-เมียนมา ช่วง 2 เดือน (ม.ค.-ก.พ.) ปี 67 อยู่ที่ 35,672 ล้านบาท ลดลง 11.41% เทียบช่วงเดียวกันปี 66 โดยเป็นไทยส่งออก 20,413 ล้านบาท ลดลง 7.7% และไทยนำเข้า 15,258 ล้านบาท ลดลง 15.85%  ไทยได้ดุลการค้า 5,155 ล้านบาท โดยการค้าขายผ่านด่านแม่สอด มีมูลค่าสูงสุดที่ 15,056 ล้านบาท ตามด้วยด่านสังขละบุรี 11,435 ล้านบาท, ด่านระนอง 5,064 ล้านบาท, ด่านแม่สาย 3,290 ล้านบาท เป็นต้น

เฉพาะเดือน ก.พ. 67 อยู่ที่ 18,206 ล้านบาท ลดลง 10.89% เป็นไทยส่งออก 10,081 ล้านบาท ลดลง 12.17% และไทยนำเข้า 8,126 ล้านบาท ลดลง 9.25% ไทยได้ดุลการค้า 1,955 ล้านบาท โดยการค้าผ่านด่านแม่สอดมูลค่าสูงสุดที่ 7,835 ล้านบาท รองลงมาคือ สังขละบุรี 5,861 ล้านบาท, ระนอง 2,444 ล้านบาท และแม่สาย 1,650 ล้านบาท จะเห็นได้ว่าไทยและเมียนมา เป็นประเทศที่ความสัมพันธ์ทางการค้าอย่างใกล้ชิด โดยมุมมองจากผู้เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ และเอกชน ต่างก็ประเมินว่า การค้าไทยยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง และน่าจะเติบโตได้ต่อไป เพราะประโยชน์ทางเศรษฐกิจ การค้าของทั้ง 2 ประเทศ มีขนาดใหญ่กว่านั้น

ด้าน นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงสถานการณ์กองกำลังกะเหรี่ยง เคเอ็นยู ยึดจังหวัดเมียวดี ของเมียนมา ตรงข้ามแม่สอดสำเร็จว่า กรมฯ ได้ติดตามสถานการณ์ที่จะมีผลต่อการค้าการขนส่งไทยอย่างใกล้ชิด โดยล่าสุด เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 67 สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศประจำกรุงย่างกุ้ง ได้แจ้งข่าวและประเมินสถานการณ์ ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลกับผู้ประกอบการขนส่งโลจิสติกส์ในพื้นที่ ทราบว่า บริเวณด่านเมียวดียังเปิดให้บริการนำเข้าส่งออกตามปกติ และเส้นทางขนส่ง ถนนทอโกโก เส้นทางเลี่ยงทดแทน ถนนกอกอเร็ท ก็ยังสามารถใช้ขนส่งได้อยู่

ดังนั้น แม้กลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง จะยึดเมืองเมียวดีได้แล้ว แต่การค้าและการขนส่งเมียงเมียวดี ยังสามารถดำเนินไปได้ แต่ก็มีความไม่แน่นอนที่อาจกระทบต่อการค้าและการขนส่งในอนาคต ซึ่งกรณีหากเกิดสถานการณ์เลวร้าย จนทำให้ไม่สามารถใช้ด่านเมียวดี หรือกระทบเส้นทางขนส่งนั้น กรมฯ ได้หารือกับผู้ส่งออก เพื่อเตรียมการขนส่งผ่านด่านหรือเส้นทางอื่นๆ เพิ่มเติมจากแม่สอด-เมียวดี เช่น แม่สาย-ท่าขี้เหล็ก ระนอง-เกาะสอง ท่าเรือแหลมฉบัง หรือด่านอื่นๆ เป็นทางเลือกเพิ่มเติม ดังนั้นภาพรวมการค้า การส่งออกของไทยกับเมียนมา ยังไม่ได้มีผลกระทบ แต่ระหว่างนี้กรมฯ จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป

นายกริช อึ้งวิฑูรสถิตย์ ประธานสภาธุรกิจไทย-เมียนมา กล่าวว่า ขณะนี้กองกำลังฝ่ายต่อต้านรัฐบาล และรัฐบาลเมียนมากำลังเจรจากันอยู่ จึงยังคงมีการคุมเชิงกันอยู่ แต่คิดว่า ทุกฝ่ายคงไม่อยากจะสูญเสียผลประโยชน์จากการค้าชายแดนแน่นอน ซึ่งคิดเป็นเงินมหาศาล ที่มากพอที่จะหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจของเมียนมาให้อยู่ได้ คาดว่า ทุกฝ่ายต้องรักษาสถานการณ์ในขณะนี้ ไม่ให้ลุกลามจนกระทบการค้าชายแดน ไม่ว่าจะเป็นการส่งออก หรือการนำเข้าสินค้าที่เป็นเส้นเลือดใหญ่ หล่อเลี้ยงประเทศ

ขณะที่ นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า ขณะนี้การค้าชายแดนบริเวณด่านเมียวดี-แม่สอด จังหวัดตากของไทย ยังดำเนินไปตามปกติ เพราะทั้ง 2 ประเทศ จำเป็นต้องทำการค้าระหว่างกัน โดยเมียนมาต้องนำเข้าน้ำมัน พลังงาน เครื่องจักรกล จากไทย ส่วนการค้าชายแดนไทย-เมียนมา แทบไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในเมียนมา แต่สิ่งที่ห่วงคือมีปัญหาอื่นที่น่าห่วงจะกระทบการค้ามากกว่า เช่น มาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่มาตรการทางภาษี การควบคุมการนำเข้าเท่าที่จำเป็น เพื่อแก้ปัญหาขาดดุลการค้า