กรณีพิพาทระหว่าง นางรำกลุ่มหนึ่ง กับพระสงฆ์ หลังมีการโพสต์เฟซบุ๊กรูปกลุ่มนางรำ 7 คน ในงานพิธีแห่งหนึ่ง พร้อมระบุข้อความว่า “นางฟ้านางสวรรค์สภาพนี้ฉันขอตกนรกตลอดกาล” ต่อมาก็ผู้โพสต์ตอบกลับ และนำมาแชร์ ต่อว่าพระรูปดังกล่าวดูหมิ่นศักศรี ดูถูกและบูลี่ โดยพระรูปดังกล่าวเป็นถึงพระครูปลัด เจ้าอาวาสวัดดังแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.สุรินทร์ และมีการลบโพสต์พร้อมขอโทษผ่านทางโซเชียล ขณะที่กลุ่มสาวประเภทสองมีการโพสต์เชิญชวนกันมาที่วัดแต่ไม่มีพระครูปลัด ต้นเรื่องจึงมีการนัดเจรจากันใหม่ตอนเย็นที่วัดสามัคคี ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

มาตามนัด! ดราม่า ‘นางรำ-พระครูบูลลี่’ จบยาก รองเจ้าคณะฯ นัดเคลียร์ใจใหม่

ความคืบหน้า เมื่อวเลา 18.30 น.วันที่ 12 มี.ค.67 .ที่วัดสามัคคี ต.ท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์ สาวสองนางรำอัปสรา พร้อมกับกลุ่มเพื่อนกว่า 10 คน ได้มาที่วัดเพื่อเจรจากับพระครูที่โพสต์โดยมีนาย พุศตม์ ขอดเมชัย ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสุรินทร์, พระครูอุดร ประชานุกูล รอง เจ้าคณะอำเภอเมืองสุรินทร์ วัดอุดรประชาราช บ้านนาเกา ต.แกใหญ่, และพระครูสุนทร สีลวัฒน์ เจ้าคณะตำบลท่าสว่าง ร่วมเจรจา

จากนั้นพระครูที่โพสต์มาถึงพร้อมกับพูดคุยถึงเรื่องดังกล่าว โดยบรรยากาศเป็นด้วยความตรึงเครียดด้วยการโต้กันไปมาได้ประมาณกว่า 1 ชั่วโมง จึงได้ข้อสรุปว่ากับพระครูที่โพสต์ว่าสาวสอง กล่าวขอโทษสาวสองนางรำอัปสราทั้ง 7 คน รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง พร้อมกล่าวขออภัยกับสาวสองนางรำอัปสราและเพื่อนๆ ต่อหน้าสื่อมวลชน ซึ่งก็เป็นที่น่าพอใจกับสาวสองนางรำอัปสราทั้ง 7 คน ก่อนแยกย้ายกันกลับไป