สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 13 มี.ค. ว่าผลอย่างไม่เป็นทางการของการเลือกตั้งขั้นต้น ภายในพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกัน เพื่อเฟ้นหาตัวแทนพรรคสู้ศึกเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ในวันที่ 5 พ.ย. 2567 ปรากฏว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตผู้นำสหรัฐ คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งขั้นต้น ที่รัฐจอร์เจีย รัฐมิสซิสซิปปี และรัฐวอชิงตัน


ทำให้ตอนนี้ ไบเดนซึ่งแน่นอนว่า จะเป็นตัวแทนของพรรคเดโมแครต ตามธรรมเนียมการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมัยที่สอง สะสมคะแนนคณะผู้เลือกตั้งได้แล้ว 2,099 เสียง เกินเกณฑ์ขั้นต่ำของพรรค ที่กำหนดไว้อย่างน้อย 1,968 เสียง


ส่วนทรัมป์ ว่าที่ตัวแทนของพรรครีพับลิกัน สะสมคะแนนคณะผู้เลือกตั้งได้แล้ว 1,228 เสียง ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำของพรรค คืออย่างน้อย 1,215 เสียง


อย่างไรก็ดี สถานะการเป็นตัวแทนพรรคของทั้งคู่ จะถือว่าเป็นทางการ เมื่อพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันจัดการประชุมใหญ่ ในช่วงฤดูร้อนที่จะถึงนี้ ซึ่งหมายความว่า การเลือกตั้งผู้นำสหรัฐครั้งนี้ จะเป็นการกลับมาแข่งขันกันอีกครั้ง ระหว่างคู่ชิงในการเลือกตั้งเมื่อปี 2563


ด้านไบเดนกล่าวว่า “ประชาธิปไตยและเสรีภาพของอเมริกากำลังอยู่บนความเสี่ยง” หากทรัมป์กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นครั้งที่สอง และแสดงความหวังว่า ชาวอเมริกัน “จะตัดสินใจด้วยความถูกต้องและชาญฉลาด เพื่ออนาคตของบ้านเมือง”


ขณะที่ทรัมป์กล่าวว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีที่กำลังจะเกิดขึ้นครั้งนี้ จะเป็นการเลือกตั้ง “ครั้งสำคัญและยิ่งใหญ่ที่สุด” ในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐ และแสดงความเชื่อมั่น ว่าจะต้องมีชัยชนะเหนือไบเดน


อนึ่ง การที่คู่แข่งของทรัมป์ทยอยถอนตัวออกจากการแข่งขันชิงตำแหน่งตัวแทนพรรค เร็วกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ โดยคนสุดท้ายคือนางนิกกี เฮลีย์ อดีตผู้ว่าการรัฐเซาท์แคโรไลนา ซึ่งประกาศระงับแคมเปญหาเสียง เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หมายความว่า แคมเปญหาเสียงสำหรับตัวแทนพรรคทั้งสองคนในคราวนี้ จะยาวนานที่สุดในรอบ 50 ปีของสหรัฐ โดยเท่ากับระยะเวลาของการเลือกตั้งเมื่อปี 2547 ที่ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ผู้นำสหรัฐในเวลานั้น และตัวแทนพรรครีพับลิกัน แข่งขันกับวุฒิสมาชิก จอห์น แคร์รี จากพรรคเดโมแครต ซึ่งใช้เวลาหาเสียงยาวนาน 244 วัน.

เครดิตภาพ : AFP