เมื่อวันที่ 13 มี.ค. รายการโหนกระแสวันนี้ พูดคุยกรณี เจ๊ไก่ สาวเศรษฐินี ที่ก่อนหน้านี้ออกมาร้องสื่อ ถูกลูกจ้างสาว แอบมีสัมพันธ์กับสามีที่ป่วยทางสมอง ก่อนพากันหนีออกไปจากบ้าน สามีลั่น ไม่เอาแล้ว เบื่อภรรยา ขอไปเริ่มชีวิตใหม่กับสาวลูกจ้าง

เจ๊ไก่ ภรรยา อายุ 57 ปี ร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนว่า แฟนของตนเองชื่อ นายยุทธ อายุ 53 ปี หายตัวออกจากบ้านในหมู่บ้าน ต.บางคูวัด อ.เมือง จ.ปทุมธานี โดยน่าจะมีคนขับรถมารับไป  ปัจจุบัน นายยุทธ ยังไม่กลับมาบ้าน ฝ่ายหญิงเป็นห่วง เกรงว่าจะได้รับอันตราย เบื้องต้นได้แจ้งความร้องทุกข์ไว้กับ พ.ต.ต.ชัยพัชร์ อารีย์วงษ์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี แล้ว

เจ๊ไก่ กล่าวว่า ตนได้ติดต่อซื้อตู้เย็นจาก นายต้น ชายคนหนึ่งที่ลงขายในกลุ่มออนไลน์ แต่พอดูของแล้วไม่ถูกใจ จึงไม่ได้ซื้อ แต่ต่อมา นายต้น ที่ลงขายตู้เย็นติดต่อกลับมาใหม่ บอกว่าขอความช่วยเหลือ อ้างว่าตัวเองมีภรรยาและแม่ที่ป่วย ลูกเป็นออทิสติก อยากกลับมาอยู่ที่ปทุมธานี  ส่วนตัวเองทำงานอยู่ที่จังหวัดชลบุรี ด้วยความสงสาร หญิงสาวจึงได้ว่าจ้างรถตู้ทึบ ไปพาครอบครัวนี้กลับมาอยู่ห้องเช่าเดิมของเขา ใกล้กับหมู่บ้านของตน

นายต้น ยังบอกว่า ตนเบิกค่าแรงล่วงหน้าจากนายจ้างเก่ามาเป็นจำนวนเงิน 3,000 บาท ถ้าไม่คืนให้เขา เขาจะแจ้งความดำเนินคดี เจ๊ไก่ จึงโอนไปช่วยอีก 3,000 บาท ซึ่งตอนที่โอน ก็ยังไม่ได้พบเจอครอบครัวนี้เลย เพราะงานยุ่งมาก

จนกระทั่งได้เรียกครอบครัวนี้มาพบ ซึ่งตนเองก็ได้สอบถามว่าจะกลับมาทำอะไร ทางด้านนายต้นได้บอกว่า ตนเองทำอาหารเป็น อาจจะเปิดร้านอาหารตามสั่ง เจ๊ไก่จึงได้หาที่ และซื้อเต็นท์พร้อมกับอุปกรณ์การทำอาหารและของสดเพื่อนำมาขาย หลังจากขายได้หนึ่งวัน ผู้ชายคนนี้ก็บอกว่าขายไม่ไหวทำไม่ได้แล้ว ซึ่งตนเองก็รู้สึกเสียความรู้สึกมาก จึงถามไปว่าแล้วจะทำยังไง ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะได้เสนอว่า จะให้ภรรยา ชื่อ “นางฝน” มาทำงานหาเงินแทน

โดยบอกว่า นางฝน ทำความสะอาดได้ เจ๊ไก่จึงรับเข้ามาทำงาน ให้ดูแลร้านซักรีด หลังจากผ่านไปหนึ่งเดือนกว่า ตนเองได้เดินทางไปทำธุระที่ภาคใต้ เอารถไปสองคัน ตนเองกับสามีและลูกน้องอีกคนได้ไปรถอีกหนึ่งคัน และให้คนขับรถอีกคนเดินทางไปกับนางฝน และตอนเวลาที่จะเดินทางกลับ ตนเองได้ให้สามีกลับกับนางฝน เดินทางกลับมาก่อน เพราะตนต้องอยู่ดูงานต่อ

หลังจากกลับมาได้ไม่นาน ก็พบเรื่องผิดสังเกต กลับมาที่ร้าน ไม่เห็นใครอยู่ในร้าน แต่เห็นรองเท้าของนางฝนถอดทิ้งไว้  ส่วนแฟนตนก็ไม่อยู่ จึงลองเดินหา เคาะประตูห้องก็ไม่มีใครตอบรับ  จนไปแอบซุ่มดู ก่อนจะพบนางฝนเดินออกมาจากห้อง จึงเข้าไปถามว่า สามีตนไปไหน นางฝนบอกว่าอยู่ในบ้าน โดยนางฝนอ้างว่าไปเข้าห้องน้ำมา ตอนนั้นไม่เชื่อ จึงได้เรียกทั้งสองคนมาคุย ก่อนที่จะไล่นางฝนออกจากงาน

จากนั้นตนก็ต้องเดินทางไปทำงานต่างจังหวัด โดยพาสามีไปด้วย ระหว่างทาง ตนเองได้บอกให้สามีมาสลับขับรถแทน ซึ่งสามีนั้นขับรถได้ แต่ต้องมีคนนั่งไปด้วยตลอด เพื่อคอยบอกทาง เขาชอบขับหลงและจำเส้นทางไม่ได้ เมื่อสามีขับไปได้สักพัก มีโทรศัพท์เข้ามา เป็นนางฝนได้โทรฯมา ตนจึงรับสายแทน ถามว่ายังไม่จบอีกหรือ? ก่อนที่จะวางสายและปิดมือถือไป

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 5 มี.ค. ที่ผ่านมา ตนพาครอบครัวและลูกน้องไปทานข้าว กลับมาถึงบ้าน สามีแอบไปคุยโทรศัพท์ตอนที่ตนไม่เห็น  ลูกน้องเป็นคนบอกว่าสามีคุยโทรศัพท์แต่ไม่รู้ว่าคุยกับใคร ก่อนที่สามีจะเดินมาบอกว่าขอไปเดินออกกำลังกายนอกบ้าน แต่ออกไปแล้วก็หายไปเลย ลูกน้องวิ่งไปตามหาก็ไม่เจอ โทรฯไปหาสามีก็ไม่ติด  สอบถาม รปภ. ที่หน้าหมู่บ้าน  ก็ได้ความว่าสามีตนเองนั่งรถแท็กซี่ออกจากหมู่บ้านไป และไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย

ตนเองจึงได้เดินทางไปแจ้งความไว้ที่  สภ.เมืองปทุมธานี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ช่วยกันออกตามหา ตรวจสอบกล้องวงจรปิดต่างๆ จนพบรถแท็กซี่ที่มารับสามีไป และตรวจสอบเส้นทางพบว่ารถแท็กซี่คันดังกล่าวได้ไปส่งสามีกับนางฝน ที่โรงแรมแห่งหนึ่งแถวตลาดพูนทรัพย์

จากนั้นเช้าวันที่ 6 มี.ค. ทั้งคู่ได้ออกจากโรงแรมแล้วขึ้นรถแท็กซี่อีกคัน เพื่อไปส่งที่บริเวณท่ารถตู้ตรงข้ามศูนย์การค้าย่านรังสิต แต่กล้องบริเวณนั้นเสีย ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าสามีและนางฝน ขึ้นรถตู้ไปที่ใด ตนเองจึงอยากวิงวอนและขอร้อง หากมีผู้ใดพบเห็นสามีตนหรือว่านางฝน  ก็สามารถแจ้งมาได้ที่ สภ.เมืองปทุมธานี ถ้าสามารถนำสามีกลับมาได้ซึ่งตนเองก็จะมีสินน้ำใจให้ผู้แจ้ง ให้เป็นเงินจำนวน 20,000 บาท อีกด้วย เพราะตอนนี้ตนเองเป็นห่วงสามีมาก เนื่องจากสามีป่วย สมองใช้การได้ซีกเดียว และต้องรับการรักษาและกินยาอย่างต่อเนื่อง

ต่อมาล่าสุด ไปพบ นายยุทธ และ นางฝน เข้าไปอยู่ด้วยกันที่โรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่ง มีการมาเจรจากันที่โรงพักกับคุณไก่ โดยนายยุทธ ได้ทำบันทึกข้อตกลง ส่งคืนกรมธรรม์ ประกันต่างๆ สิ่งที่เขาต้องได้รับประโยชน์ต่างๆ ส่งคืนให้คุณไก่ทั้งหมด

คุณยุทธ โฟนอินเข้ามาพูดในรายการ บอกว่าไม่อยากจะทนกับคุณไก่แล้ว เขาด่าเราหยาบคาย แช่งให้เราตาย เราพิการทางสมอง ร่างกายซีกหนึ่งใช้ไม่ได้ เขาดูแลเราไป ก็ทำร้ายเราไป ด่าทอเราสารพัด

ที่ตัดสินใจจะออกจากบ้านมาอยู่กับนางฝน เพราะเขาดูแลเรา เขาพร้อมจะดูแลเราไม่ทำแบบเจ๊ไก่แน่นอน ตอนนี้ตนออกจากบ้านมาชุดเดียว ไม่มีอะไรติดตัวมาสักอย่าง ส่วนทองต่างๆ เอาไปขายหาเงินมาตั้งตัว

ส่วนเหตุการณ์ที่คุณไก่ย้อนเล่า ที่ว่าเราขับรถกลับมากับฝนสองต่อสอง หรือวันที่เขาไปดักส่องหน้าห้องนอน ยืนยันว่าไม่มีอะไรเกินเลย มารักกัน เห็นใจกัน หลังจากตอนที่หนีมาด้วยกันแล้ว

คุณยุทธ ยืนยันว่าจะแยกทางกับคุณไก่อย่างเด็ดขาด ถึงแม้จะป่วย  แต่ก็มั่นใจว่าจะทำได้ หลังจากนี้จะขับรถให้นายทหาร ส่วนนางฝน ถึงแม้เขาจะไม่ใช่คนร่ำรวย แต่เขาก็จิตใจดี พร้อมจะดูแลตนแน่นอน หลังจากนี้มรดกอะไรต่างๆ จะยกให้เจ๊ไก่ทั้งหมด ถ้าตนเสียชีวิต เจ๊ไก่จะได้รับทรัพย์สินต่างๆ ไปทั้งหมด อะไรที่ทำมาหาได้ด้วยกัน จะไม่ขอหาร ไม่ขอแบ่งครึ่ง ยกให้คุณไก่ไปเลย

คุณไก่บอกว่า ในเมื่อคุณยุทธเลือกแบบนี้ ก็ขอให้รับผลจากการเลือกของตัวเอง เขายังมีเส้นเลือดตีบอีกหนึ่งจุด ที่เสี่ยงจะเกิดเส้นเลือดแตกขึ้นมาอีก คนที่ดูแลเขาต้องดูแลใกล้ชิด แต่เมื่อเขาเลือกแบบนี้ ตนก็ยินดี ในวันที่เขาล้มขึ้นมา ก็ขอให้รู้ว่าเขาเลือกเอง

ขณะที่นายยุทธบอกว่า ขอให้คุณไก่ไม่ต้องมายุ่งกับตนอีก ตายก็ไม่ต้องมาเผากัน ซึ่งคุณไก่ก็บอกว่าไม่ไปแน่นอน