เมื่อวันที่ 13 มี.ค. พ.ต.อ.ประทีป เจริญกัลป์ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.สส.สตม. และเภสัชกรหญิง สุภัทรา บุญเสริม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) นำกำลังเข้าตรวจสอบบริษัทแห่งหนึ่งย่านประเวศ หลังได้รับการร้องเรียนว่ามีกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ชาวจีน ทำการไล้ฟ์สดขายสินค้าไม่ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะเครื่องสำอางค์แบรนด์ดัง ที่บางชิ้นไม่ได้รับการจดแจ้งจาก อย. รวมถึงสินค้าบางประเภทมีราคาเกินจริง โดยมีกลุ่มผู้ติดตามหลักล้าน สร้างความเสียหายแก่ภาพลักษณ์และมาตรฐานสินค้าไทย

พ.ต.อ.ประทีป กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทดังกล่าวจดทะเบียนนิติบุคคล ประกอบกิจการจำหน่าย นำเข้าและส่งออกหมอน ที่นอน ชุดชั้นในสตรีและเครื่องใช้ทุกชนิด ที่ทำจากยางพาราและใยสังเคราะห์ ซึ่ง สคบ. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภค ว่ามีกลุ่มชาวจีนใช้สถานที่บริษัทแห่งนี้ไลฟ์สดขายสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ได้รับการจดแจ้งกับ อย. โดยแอบอ้างว่าสินค้าบางประเภทเป็นสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย ข้อเท็จจริงอาจเป็นสินค้าที่ผลิตในประเทศจีน จึงประสานกับ สตม. และ อย. เข้าตรวจสอบ

ด้าน พล.ต.ต.พันธนะ กล่าวว่า จากการตรวจสอบบริษัทดังกล่าว พบมีชาวต่างชาติอยู่ในบริษัทดังกล่าว 17 ราย โดยพบว่ามีชาย 1 หญิง 1 กำลังไลฟ์สดขายสินค้า จึงได้ดำเนินการเข้าควบคุม โดยเบื้องต้นพบความผิดของผู้ที่กำลังไลฟ์สด ว่ามีการทำงานของชาวต่างชาติโดยไม่ได้ขอใบอนุญาต ส่วนชาวต่างชาติอีก 15 คน จะต้องตรวจสอบว่ามีการกระทำความผิดอื่นอีกหรือไม่ ทั้งนี้จากการตรวจสอบผู้ไลฟ์สดขายสินค้า พบว่าเป็นอินฟลูเอนเซอร์ชาวจีน ที่มีผู้ติดตามกว่า 13 ล้านคน คาดว่ามีการจำหน่ายสินค้าจากการชักชวนของอินฟลูเอนเซอร์คนนี้เป็นจำนวนมาก

ด้านเภสัชกรหญิงสุภัทร ระบุว่า ในส่วนของ อย. พบ ผลิตภัณฑ์สมุนไพรและเครื่องสำอางที่ชาวจีนนิยม ซึ่ง อย. จะดำเนินการตรวจสอบพบว่ามีการผลิตสินค้าเหล่านี้ในประเทศไทยจริงหรือไม่ ขณะที่สินค้าบางตัวไม่พบฉลากภาษาไทยกำกับ คาดว่าสินค้าบางตัวน่าจะผลิตจากต่างประเทศ เบื้องต้นมีความผิดชัดเจน พร้อมฝากไปยังประชาชนหากสงสัยในตัวผลิตภัณฑ์ ว่าผ่านการจดแจ้งจาก อย. หรือไม่ สามารถตรวจสอบได้ผ่านเว็บไซต์ของ อย. โดยใส่เลขจดแจ้งที่ระบุด้านข้างของผลิตภัณฑ์ หรือสอบถามผ่านสายด่วน 1556

สำหรับการตรวจสอบเบื้องต้นพบการกระทำความผิด ดังนี้ 1.ขายสินค้าไม่ได้คุณภาพ ไม่ได้รับอนุญาต จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 300,000 บาท 2.ขายสินค้าไม่ได้คุณภาพ ไม่มีทะเบียนตำรับ จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท 3.ขายเครื่องสำอางไม่จดแจ้งปรับไม่เกิน 20,000 บาท และขายเครื่องสำอางไม่มีฉลากภาษาไทย มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับ 10,000 บาท.