เมื่อวันที่ 15 มี.ค. ที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 วิริฒิพา ภักดีประสงค์ หรือ วุ้นเส้น, ปณิตา พัฒนาหิรัญ หรือ หนิง พร้อมทีมผู้บริหาร เซวา ไทยแลนด์ เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับเพจที่นำรูปภาพของทั้งสองคนไปใช้ในข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยมี พล.ต.ต.​ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 เป็นผู้รับเรื่อง

วุ้นเส้น วิริฒิพา กล่าวว่า เราทั้งสามคนทำผลิตภัณฑ์เซวามาแปดปีแล้ว แต่ครั้งนี้มันเกิดความเสียหาย เนื่องจากลูกค้าเข้าใจผิดว่าสั่งเซวา และโอนเงินไป แต่ถูกหลอกจนไม่ได้ของจากเพจที่มีการแอบอ้าง โดยนำภาพของตนไปใช้ จึงทำให้ไม่ได้ของ และเข้ามาโวยวายกับทางเพจของบริษัท ซึ่งพอเป็นแบบนี้ มันทำให้แบรนด์และภาพลักษณ์ของพวกตนเสียหาย

หนิง ปณิตา เล่าว่า เพจที่แอบอ้างนั้น ได้นำคลิปมาโปรโมต จะมีการแปะหน้าของพวกตนทั้ง 2 คนเสมอ และมีการบอกขายผลิตภัณฑ์ของพวกตน มีการเพิ่มลดโปรโมชั่นต่างๆ พร้อมติดแท็กของเซวา ซึ่งพอเป็นแบบนี้ จึงทำให้มีคนหลงเชื่อ จนกดสั่งซื้อไปแต่ไม่ได้ของกลับมา มีจำนวนลูกค้าเยอะมากที่โดนแบบนี้ เราทำแบรนด์นี้มาแปดปีแล้ว และถูกแอบอ้างในลักษณะนี้ ซึ่งหากมีการพูดต่อไปเรื่อยๆ และไม่ได้ออกมาชี้แจง คนอาจมองว่าบริษัทไม่ซื่อสัตย์ ตนขอย้ำว่าตนทำงานกับผู้บริโภคโดยซื่อสัตย์สุจริตมาโดยตลอด ในทุกเคสทุกราย

วุ้นเส้น วิริฒิพา ฝากเตือนถึงลูกค้าทุกคนว่า ในการโอนเงินแต่ละครั้งนั้น ขอให้ทุกคนดูที่ชื่อบัญชี บริษัทไม่มีบัญชีเป็นบุคคล แต่จะมีบัญชีในนามของนิติบุคคลที่เป็นชื่อบริษัท ซึ่งอยากฝากไปถึงตรงนี้ให้กับคนทุกคนที่กำลังจะสั่งซื้อ ให้ช่วยสังเกตดีๆ

พล.ต.ต.​ชัชปัณฑกาณฑ์ กล่าวว่า กรณีที่หนิงและวุ้นเส้นโดนนั้น ซึ่งวันนี้ทั้งคู่ได้เข้ามาแจ้งความกับทาง สอท.1 โดยหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะรวบรวมพยานหลักฐานเนื่องจากคดีนี้เข้าข่ายมาตรา 16 วรรคหนึ่ง และมาตรา 14 วรรคหนึ่งของ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งขณะนี้กำลังเช็กว่ามีผู้เสียหายเท่าไหร่ ซึ่งหากเช็กแล้วพบว่ามีผู้เสียหายคดีนี้ ก็จะเข้า ป.อาญามาตรา 343 ฐานฉ้อโกงประชาชน ซึ่งมีโทษจำคุกสูงถึงห้าปี และหลังจากลงบันทึกประจำวันในวันนี้แล้ว ตำรวจไซเบอร์จะเร่งรัดและตามจับคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ไวที่สุด