เมื่อวันที่ 16 มี.ค. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. สั่งการให้ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 พ.ต.อ.พิเชียรยศ อรุณพันธกุล ผกก.1 บก.สอท.1 นำกำลังพร้อมหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.216/2567 ลงวันที่ 5 มี.ค. 67 เข้าจับกุม น.ส.สมศรี อายุ 46 ปี ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน หรือเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยไม่ได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นใด”

สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายแจ้งความผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์ โดยแจ้งว่าขณะใช้แอปพลิเคชันเฟซบุ๊ก พบโพสต์ให้ความรู้และสอนเกี่ยวกับการลงทุนเล่นหุ้นทั้งในและต่างประเทศ โดยมีผลกำไรดี ผู้เสียหายสนใจจึงกดเข้าไปอ่านดู โดยในโพสต์มีลิงก์ให้เพิ่มเพื่อนทางแอปพลิเคชันไลน์จึงกดเข้าไป เมื่อกดเข้าไปในโพสต์ดังกล่าว แอปพลิเคชันไลน์ได้เด้งขึ้นมา จากนั้นได้เข้าไปคุยกับบุคคลที่ใช้แอปพลิเคชันไลน์ดังกล่าว แจ้งว่าเป็นอาจารย์และให้ความรู้เกี่ยวกับการลงทุนเทรดหุ้นทั้งในและต่างประเทศ โดยมีผลกำไรตอบแทน 30 เปอร์เซ็นต์ จากนั้นบุคคลดังกล่าวได้ส่งลิงก์ให้กด ต่อมาเมื่อกดแล้ว ได้เด้งแอปพลิเคชันไลน์ชื่อ OSK-Aaron ขึ้นมา จากนั้นบุคคลดังกล่าวได้สอนวิธีการลงทะเบียนเมื่อทำตามขั้นตอนหน้าจอโทรศัพท์ ต่อมาได้เด้งแอปพลิเคชันชื่อ OSKTrading ขึ้นมา จากนั้นบุคคลที่ใช้ชื่อผ่านแอปพลิเคชันไลน์ว่า OSK-Aaron จะสอนวิธีการลงทะเบียนเพื่อเข้าไปทำการซื้อขายหุ้นและแลกเปลี่ยนสกุลเงิน ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงทำการโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารของคนร้ายจำนวน 13 ครั้ง รวมมูลค่าทั้งสิ้น จำนวน 2,210,000 บาท

นอกจากนี้ จากการตรวจสอบยังพบว่า มีบัญชีที่รับโอนเงินจากผู้เสียหายเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด 3 บัญชี และบัญชีบุคคลธรรมดาอีก 1 บัญชี ซึ่งถือว่ากลุ่มคนร้ายได้เปลี่ยนแปลงวิธีรับผลประโยชน์โดยไปใช้บัญชีของห้างหุ้นส่วนจำกัด เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้เสียหายมากขึ้น และจากการสอบปากคำกลุ่มผู้ต้องหาแจ้งว่า จะมีหน้าขอสำเนาหน้าบัตรประชาชนจากกลุ่มผู้ต้องหา เพื่อนำไปใช้เปิดห้างหุ้นส่วนจำกัดอีกด้วย และจากการตรวจสอบในระบบรับแจ้งความออนไลน์ พบผู้เสียหายกว่า 20 คดี ความเสียหายรวม 118,966,000 บาท

ต่อมาทางชุดสืบสวน กก.1 บก.สอท.1 สืบสวนจนทราบว่า น.ส.สมศรี เป็นผู้ร่วมขบวนการแก๊งหลอกลวง ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้า จึงรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายจับ โดยติดตามจับกุมตัวได้ที่ห้องพักย่านบางซื่อ กทม. สอบปากคำ น.ส.สมศรี ให้การรับสารภาพว่า เมื่อช่วงเดือน ต.ค. 66 มีคนรู้จักมาติดต่อขอให้เปิดบัญชีธนาคาร แลกกับค่าจ้าง 2,000 บาท โดยนัดกันไปเปิดบัญชีที่ย่านปิ่นเกล้า และไม่รู้ว่านำไปเปิดเป็นชื่อของห้างหุ้นส่วนจำกัด เพื่อใช้ในการหลอกลวง ก่อนควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป.