จากเหตุคนร้ายประมาณ 4 คน ขับรถยนต์กระบะ บุกใช้ปืนจ่อยิงนายซอ นัย อู อายุ 46 ปี สัญชาติเมียนมา เสียชีวิต ภายในแคมป์ที่พักคนงาน ขณะที่นายซอ นัย อู นอนอยู่กับนางสาวเท เท คัย ภรรยา ซึ่งคนร้าย 3 คน ใช้เท้าพังประตูห้องสังกะสี และเปิดมุ้ง ใช้ปืนจ่อยิงนายซอ นัย อู ขณะนอนหลับ หลังก่อเหตุ คนร้ายพากันขึ้นรถยนต์กระบะ ที่เพื่อนติดเครื่องยนต์รอ อยู่ในป่าละเมา ใกล้กับแคมป์คนงานหลบหนีไป โดยเหตุเกิดเขตประกอบการนิคมอุตสาหกรรมแห่งหนึ่ง หมู่ 2 ตำบลสำนักทอง อำเภอเมืองระยอง เมื่อเวลาประมาณ 3 นาฬิกา เช้าวันที่ 12 มีนาคม ที่ผ่านมา

หลังเกิดเหตุตำรวจสอบสวน ทราบว่า สาเหตุนายซอ นัย อู ถูกยิงเสียชีวิต เกิดจากแก๊งค้าแรงงานสัญชาติเดียวกัน นำแรงงานมาให้นายซอ นัยอู แต่นายซอนัยอู ไม่ยอมจ่ายเงินค่าหัว แถมพูดจาข่มขู่ จึงทำให้แก๊งค้าแรงงานไม่พอใจ และโกรธแค้น กระทั่งเช้ามืดวันเกิดเหตุ แก๊งค้าแรงงานชาวเมี่ยนม่า ประมาณ 4 คน ได้ขับรถยนต์พากันมาที่เกิดเหตุ และบุกยิงนายซอนัยอู เสียชีวิต

และหลังเกิดเหตุ ตำรวจสืบสวนภูธรภาค 2 และตำรวจฝ่ายสืบสวนภูธรจังหวัดระยอง ได้ออกติดตามคนร้าย โดยตรวจสอบกล้องวงจรปิด สืบหาเส้นทางหลบหนีของคนร้าย กระทั้งเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ ( 15 มีค.) ตำรวจพบรถยนต์กระบะสีดำ ต้องสงสัย จอดอยู่บริเวณสถานที่ก่อสร้างแห่งหนึ่ง ในกรุงเทพมหานคร และพบแรงงานสัญชาติเมี่ยนมา 2 คน คือนายหม่อง และนายเพียล จากนั้นจึงนำหมายจับศาลจังหวัดระยองเข้าไปควบคุมตัว และนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.สำนักทอง อำเภอเมืองระยอง พร้อมกับตรวจยึดรถยนต์กระบะแค๊ป สีดำ คันที่ใช้เป็นยานพาหนะมาก่อเหตุ ให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบหาหลักฐานภายในรถ

เบื้องต้นนายหม่อง และนายเพียล ( นามสมมุติ) ให้การตำรวจผ่านล่ามว่า มีผู้ร่วมวางแผนก่อเหตุ 7 คน เนื่องจากไม่พอใจที่ถูกนายซอนัยอู ไม่จ่ายค่าหัว แรงงานเมี่ยนมาเป็นจำนวนหลายหมื่นบาท แถมยังถูกนายซอนัยอู พูดข่มขู่ จากนั้นจึงวางแผนกันก่อเหตุฆ่านาซอนัยอู ซึ่งนายหม่อง และนายเพียล สารภาพว่าเดินทางมาด้วย แต่ไม่ได้เป็นคนยิงนายซอนัยอู เสียชีวิต และให้การซัดทอดเพื่อนอีก 5 คน ซึ่งอยู่กรุงเทพมหานคร

ต่อมา ตำรวจสืบสวนภาค 2 ติดตามจับผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุได้ครบทั้ง 5 คน พร้อมอาวุธปืนของกลางที่ใช้ก่อเหตุ และนำผู้ต้องหาไปส่งสน.ท่าข้าม 2 และ สน.บางขุนเทียน 3 คน เพื่ออายัดตัวดำเนินคดีข้อหาอื่น ส่วนทางด้าน สภ.สำนักทอง อำเภอเมืองระยอง ตำรวจแจ้งข้อหา ความผิด พรบ.อาวุปืน โดยร่วมกัน
มีอาวุธและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ซึ่งมีอัตราโทษสูงประหารชีวิต