สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 18 มี.ค. ว่านายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล กล่าวถึงแผนปฏิบัติการทางทหารภาคพื้นดิน ในเมืองราฟาห์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ และตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของฉนวนกาซา ว่าเป็นความต้องการของอิสราเอล ในการปราบปรามสมาชิกกลุ่มฮามาสที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในฉนวนกาซา “แต่จะไม่ดำเนินการท่ามกลางประชาชนจำนวนมาก”


อย่างไรก็ตาม เนทันยาฮูยังไม่ได้กล่าวอย่างชัดเจน เกี่ยวกับแผนการอพยพประชาชนออกจากเมืองราฟาห์ แต่เน้นย้ำว่า ปฏิบัติการจะยังคงเกิดขึ้น ไม่ว่าอิสราเอลจะเผชิญกับแรงกดดันจากประชาคมโลกมากเพียงใดก็ตาม เนื่องจากอิสราเอล “ต้องบรรลุเป้าหมายสงครามที่กำหนดไว้ตั้งแต่แรกเท่านั้น” นั่นคือ การกวาดล้างกลุ่มฮามาสให้สิ้นซาก


ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีอิสราเอลมีมติ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อนุมัติ “แผนการทั้งหมด” เกี่ยวกับปฏิบัติการทางทหารของกองทัพ ในเมืองราฟาห์ แม้ไม่มีการระบุกรอบระยะเวลา และข้อมูลอื่นใดเพิ่มเติม แต่ระบุว่า กองทัพอิสราเอลเตรียมความพร้อม สำหรับการอพยพประชาชนในพื้นที่ด้วย นอกเหนือจากการเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารตามแผนการ


ทั้งนี้ เมืองราฟาห์เป็นเมืองใหญ่ ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของฉนวนกาซา โดยมีพรมแดนติดกับอียิปต์ และอิสราเอลประกาศชัดเจน ว่าจะเป็นพื้นที่สุดท้ายของปฏิบัติการทางทหารภาคพื้นดิน เพื่อปราบปรามสมาชิกกลุ่มฮามาสที่ยังเหลืออยู่ นับตั้งแต่สงครามปะทุ เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566


ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ และนายแอนโทนี บลิงเคน รมว.การต่างประเทศสหรัฐ ยังคงคัดค้านปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอล ในเมืองราฟาห์ โดยกล่าวไปในทางเดียวกัน ว่ารัฐบาลวอชิงตันยังคงต้องการให้อิสราเอลนำเสนอแผนการชัดเจนกว่านี้ เพื่อเป็นหลักประกันด้านความปลอดภัยให้กับประชาชนในเมืองราฟาห์


ขณะที่ประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาส ผู้นำปาเลสไตน์ เรียกร้องสหรัฐและประชาคมโลก ร่วมกันหยุดยั้งแผนการของอิสราเอลที่มีต่อเมืองราฟาห์ เพื่อไม่ให้ชาวปาเลสไตน์ต้องเสียชีวิต และพลัดถิ่นฐานมากไปกว่านี้.

เครดิตภาพ : AFP