นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอสซีบี เอกซ์ (SCB) เปิดเผยว่า ในอีก 1-2 วันนี้ เตรียมเปิดตัวพันธมิตรใหม่เป็นบริษัทเทคโลยีจากประเทศจีน เพื่อร่วมกันกับ Kakao Bank จากเกาหลีใต้ ยื่นขอใบอนุญาตจัดตั้งธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา หรือเวอร์ชวลแบงก์ จากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยมองว่าไม่ต้องการเข้ามาแข่งขัน เพราะแต่ละแห่งมีแผนมีจุดแข็ง ซึ่งคนที่ได้ประโยชน์คือประชาชนที่จะเข้าถึงบริการทางการเงิน สอดรับกับหลักเกณฑ์และวัตถุประสงค์ของ ธปท. ขณะที่มองว่าธุรกิจธนาคารดั้งเดิม มีการทำนาโนไฟแนนซ์ หรือมีธุรกิจพิโกไฟแนนซ์อยู่แล้ว จึงไม่ได้ตื่นเต้นอะไร

นอกจากนี้ เอสซีบี เอกซ์ จะเริ่มใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า ไต้ฝุ่น 1.0 ในช่วงกลางปีนี้ เพื่อนำเอไอมาปรับใช้ภายในองค์กร เพราะเชื่อมั่นว่าเอไอกำลังเปลี่ยนโลกอยู่ และมีโครงการพัฒนาทักษะด้านเอไอให้กับพนักงาน 2 หมื่นคน ได้เรียนรู้กับเอไอ มองว่าเป็นโอกาสของพนักงานทุกคน โดยสิ่งที่ยังขาดตอนนี้คือ การนำเอไอมาใช้ให้เกิดขึ้นจริง ซึ่งต้องทำตามเป้าหมายที่ต้องเกิดรายได้จากเอไอในอีก 3 ปีนี้

“การนำเอไอเข้าไปอยู่ในกระบวนการทำงาน หลังบ้าน กลางบ้าน หน้าบ้าน เป็นสิ่งที่คิด เป็นสิ่งที่สำคัญ คิดแล้วต้องกำหนดเป้าหมาย มีตัวชี้วัดที่ชัดเจน มีวัฒนธรรมที่สนับสนุน เรียนรู้ที่สิ่งไม่ถูกไม่ดี ความจริงแล้วต้องเรียนรู้อย่างไร และทำต่อ ชื่นชมสนับสนุนให้เกิดทำต่อ แม้จะมีคนกลัวตกงานเพราะนำเอไอไปแทน แต่กระบวนการคือเน้นเรื่องวัฒนธรรม การสื่อสาร มีประสิทธืภาพมากขึ้น แน่นอนคนที่ปรับตัวไม่ได้ คือสิ่งที่เกิดขึ้น ให้มองเป็นโอกาสว่าต้องทำได้”

นายอาทิตย์ กล่าวว่า โลกไม่เหมือนเดิม ทั้งการเมือง โลกร้อน ดิสรัปทางด้านเทคโนโลยี เกิดความเชื่อมโยงของปัญหา ทำให้ต้องปรับตัวระวังจะสายเกินไป ซึ่งเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงภาคธุรกิจต้องปรับตัวอยู่ตลอดเวลา เพราะแค่หยุดเดินหยุดวิ่งก็เหมือนถอยหลังแล้ว เพราะโลกไปข้างหน้าที่มีความเร็วด้านเทคโนโลยี ภาคธุรกิจที่เป็นนักวิ่งต้องเป็นวิ่งมาราธอนที่วิ่งเร็ว ต้องอึดมากและเร็วมากด้วย

ทั้งนี้หลายปีที่ผ่านมาธนาคารไทยพาณิชย์ ไม่ได้เน้นการเติบโต ไม่ได้เน้นการขยายตัวของสินเชื่อ ไม่ได้เน้นคิดค่าธรรมเนียมค่าบริการกับลูกค้าที่แพง แต่เน้นการลงทุน และต้นทุนลดลงหลักหมื่นล้าน ทำให้องค์กรหยุดลงทุน โดยปรับกระบวนการทำงาน รับมือการแข่งขันการปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อม และต้องทำให้พนักงานในองค์กรนั้นเปลี่ยนเป็นความภูมิใจ

อย่างไรก็ตามในเรื่องธุรกิจใหม่ ต้องเป็นความสามารถใหม่ เกิดเทคโนโลยีใหม่ที่จะมากำหนดต้นทุน และเป็นต้นทุนที่ว่า การแข่งขันสิ่งที่กำลังทำ ถูกหรือไม่ โดยใช้เวลากว่าจะถึงจุดที่ใช่ รวมทั้งมีต้นทุนการทดลอง การจัดตั้ง ต้นทุนเรียนรู้ศึกษา มีโอกาสผิดได้มาก เรียนรู้ได้มาก และสำเร็จได้มากเช่นกัน