เมื่อวันที่ 20 มี.ค. น.ส.บี (นามสมมุติ) พา ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี ลูกสาว เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับ ร.ต.อ.ธนวัฒน์ คำผา รอง สว.(สอบสวน) สภ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อให้ดำเนินคดีกับ “พระต๋อง” หรือ “มหาต๋อง” อายุ 24 ปี พระลูกวัดชื่อดังแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเรา ด.ญ.เอ ภายในวัด

ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 มี.ค. 67 ที่ผ่านมา ด.ญ.เอ ลูกสาวของ น.ส.บี ได้โทรศัพท์ไปขอความช่วยเหลือจากแม่ ว่าโดนพระวัดชื่อดังข่มขืน โดยก่อนหน้านี้ ด.ญ.เอ ไปทำงานเป็นพนักงานของวัด เพื่อหารายได้พิเศษช่วยเหลือครอบครัว กระทั่งวันเกิดเหตุ ฝ่ายพระต๋องได้ใช้อุบายหลอกให้ ด.ญ.เอ เข้าไปในห้องเก็บเครื่องดนตรี ทำนองว่าให้ไปช่วยยกของ แต่พอไปถึง ฝ่ายพระต๋อง ได้ล็อกประตูก่อนปลุกปล้ำทำร้ายร่างกายด้วยการชกท้อง ใช้เชือกมัดมือมัดเท้า จากนั้นก็ล่วงละเมิดทางเพศ มีการถ่ายรูปเอาไว้ข่มขู่แบล็กเมล์ไม่ให้บอกใคร มิเช่นนั้นจะเผยแพร่รูปดังกล่าว

น.ส.บี เล่าอีกว่า หลังเกิดเหตุ ตนรีบเดินทางมาจาก จ.เชียงราย ทันที เมื่อมาถึงก็รีบไปสอบถามข้อเท็จจริงจากฝ่ายพระ ปรากฏว่า พระต๋อง สึกออกมาแล้ว โดยใช้ชื่อ นายมควรรณ ทองออน ยอมรับสารภาพว่า ได้หลอก ด.ญ.เอ ไปล่วงละเมิดทางเพศจริง และยังอ้างอีกว่า จะรับผิดชอบด้วยการแต่งงาน พร้อมเสนอเงินค่าเสียหายให้ 2 แสนบาท ซึ่งตนไม่ยินยอม ฝ่ายพระต๋องเพิ่มเงินอีก 4 แสนบาท เพื่อไม่ให้แจ้งความดำเนินคดี ตนจึงบอกไปว่า ที่ไม่ยอมความก็เพราะเห็นว่า ตอนที่เป็นพระ ยังกล้าทำเรื่องไม่เหมาะสมขนาดนี้ หากตนยอมไม่เอาความ ก็คงจะไปทำเช่นนี้กับคนอื่น ๆ อีกอย่างแน่นอน ตนจึงไม่ยอมความ รวมทั้งขอให้ตำรวจดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังเกิดเหตุตำรวจรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนขออนุมัติศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาออกหมายจับ พระต๋อง ในข้อหา กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม, หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ก่อนจะควบคุมตัวไว้ภายในห้องควบคุมผู้ต้องหาของ สภ.ท่าเรือ สอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ส่วนบรรยากาศภายในวัดชื่อดัง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา หลังเกิดเหตุมีกลุ่มชาวบ้านจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมของพระหนุ่มกันอย่างกว้างขวาง เนื่องจากพระที่ก่อเหตุสอบได้พระปริยัติธรรมได้เกิน 3 ประโยค จึงเรียกกันว่า “มหาต๋อง” ซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง เพราะปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ แต่กลับไปทำเรื่องเสื่อมเสียชื่อเสียง จนต้องสึกและถูกดำเนินคดี โดยช่วงเกิดเรื่อง ทางเจ้าอาวาสวัดไม่อยู่ เดินทางไปงานศพของญาติที่ จ.พิษณุโลก เป็นเวลา 4 วัน ทำให้ไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น ขณะที่ฝ่ายผู้เสียหาย หลังจากให้ปากคำตำรวจแล้วเสร็จ ได้พากันกลับบ้านที่ จ.เชียงราย ทันที โดยจะกลับมาให้ปาคำกับทางสหวิชาชีพและฝ่ายงานเกี่ยวข้องอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนเรื่องการเรียน น.ส.บี ยืนยันว่า จะให้ลูกกลับไปเรียนที่ จ.เชียงราย.