ล่าสุดคิว “เถ้าแก่ใหญ่“ ออกโชว์บารมีเสกมนต์เป่ากระหม่อมลูกหาบเพื่อไทย ในวันที่ 26 มี.ค. วัดพลังตำนานที่ยังมีลมหายใจ ยืนยงคงกระพันไม่เคยห่างหายจากวังวนอำนาจ โดยวางแพลนเปิดโอกาสให้ สส. เข้าพบ ทยอยเข้าพบเป็นกลุ่มๆ ตามรายจังหวัดหรือกลุ่มจังหวัด เพื่อเยี่ยมเยียน ไต่ถามสารทุกข์สุกดิบอดีตนายกรัฐมนตรีเท่านั้น จะไม่เข้าไปร่วมประชุมพรรค หรือเกี่ยวข้องใดๆ กับการประชุมในวันดังกล่าว

ตามจังหวะลูกหาบพรรคเพื่อไทยอย่าง “มาดามแจ๋น“ พวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาคอนเฟิร์มว่า ทุกคนคงอยากเจอท่าน เพราะการจะเข้าถึงโดยไปพบที่บ้านอาจจะลำบาก จึงมาพบที่พรรค มาเยี่ยมเยียน สส. ทุกคนอยากจะไปเจอแต่ไม่มีโอกาส นายทักษิณจึงมาที่พรรค ไม่ได้มีประเด็นทางการเมือง ท่านเห็นว่าทุกคนอยากจะเจอ ต้องหาโอกาสมาเจอสักครั้ง สไตล์ของนายทักษิณ เป็นสไตล์ของที่ปรึกษาที่เป็นอดีตนายกฯ ใครอยากจะปรึกษาอะไรที่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ ท่านก็ยินดีจะให้คำแนะนำ

ทว่าหลายคนมองว่า การเดินทางเข้าพรรคเพื่อไทยครั้งแรกคราวนี้ เหมือนกับการ “เร่งเกม” เพราะไม่อาจรอช้ากว่านี้ หากมองในมุมการเมืองเพียวๆ ถือเป็นการหยั่งกระแสไปพร้อมๆ กับการแสดงให้เห็นถึง “อำนาจและบารมี” ที่แท้จริงของตัวเอง ด้วยสถานการณ์การเมืองที่บีบรัดเข้ามา จึงทำให้ต้องปรากฏตัวต่อสาธารณชน เปิดหน้าชนจัดเต็ม เดินหน้าแบบไม่มีกั๊ก ไม่เกรงใจใครอีกต่อไป เพราะโฟกัสจากคะแนนนิยมจากผลสำรวจโพล สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า ฝ่ายตรงข้ามเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด

งานนี้ศูนย์กลางอำนาจตัวจริงขยับ เพราะสมการทางการเมืองเปลี่ยนไป จำเป็นต้องเร่งเกมเร็ว ประเมินแล้วว่า คะแนนพรรคเพื่อไทยกลับมาแบ่งเป็น 2 ส่วน กลุ่มหนึ่งยังคนเลือกเพื่อไทย ถึงแม้ว่าจะมีหรือไม่มีนายทักษิณก็ตาม แต่อีกจำนวนหนึ่ง ยังติดภาพนายทักษิณมาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย เรื่อยมาถึงเพื่อไทย ถึงแม้หัวหน้าพรรคจะเป็นใครก็ตาม แต่ภาพนายทักษิณ ไม่เคยจางหายไปจากสังคมไทย ยังมีคนจำนวนมากที่ยังศรัธาพรรค ไม่สามารถแยกออกจากกันได้

จากนี้ก็คงต้องจับตาการเคลื่อนไหวของ “เถ้าแก่ใหญ่” ขยับเกมรุกกรุยทางการเมือง ในยามที่โจทย์การเมืองโคตรยากจำเป็นต้องลงมาบัญชาการจัดทัพใหม่ให้เข้าที่เข้าทาง รวมถึงเพื่อสร้างขวัญ และกำลังใจให้ลูกพรรค และเรียกเครดิตความเชื่อมั่นในการบริหารพรรคให้เดินต่อไปกลับคืนมา ไม่เช่นนั้นหากปล่อยไว้ เส้นทางอำนาจอาจไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบอีกต่อไป.