สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 26 มี.ค. ว่า ในบรรดาบริษัท 6 แห่งซึ่งได้รับการกำหนดให้เป็น “ผู้ควบคุมกลั่นกรองของตลาด” ภายใต้กฎหมายตลาดดิจิทัล (ดีเอ็มเอ) ที่สำคัญของอียู พร้อมด้วยแอมะซอน, ติ๊กต็อก และไมโครซอฟท์ จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมายใหม่ นับตั้งแต่วันที่ 7 มี.ค. ที่ผ่านมา

“เราไม่เชื่อว่า โซลูชั่นของอัลฟาเบต, แอปเปิล และเมตา เคารพต่อพันธกรณีของพวกเขา ในการสร้างพื้นที่ดิจิทัลที่ยุติธรรมและเปิดกว้างมากขึ้น สำหรับพลเมืองและธุรกิจในยุโรป” นายตีแยรี เบรตอง ข้าหลวงด้านตลาดภายในของอียู กล่าว

ด้านคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ระบุในแถลงการณ์ประกาศการสอบสวนว่า มีความสงสัยต่อมาตรการต่าง ๆ ที่ทั้งสามบริษัทดำเนินมาจนถึงขณะนี้ ซึ่งยังขาดการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่มีประสิทธิผล

แม้สมาคมอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์และการสื่อสาร (ซีซีไอเอ) ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มล็อบบี้เทคโนโลยีหลัก วิพากษ์วิจารณ์การสอบสวนข้างต้น โดยกล่าวหาว่า อียู “ด่วนสรุป” และดำเนินการอย่างเร่งรีบเกินไป แต่นางมาร์เกรเธอ เวสทาเกอร์ ข้าหลวงด้านการแข่งขันทางการค้าของอีซี ยืนกรานว่า หน่วยงานกำกับดูแลไม่ได้เร่งการสอบสวนบริษัทต่าง ๆ “อย่างแน่นอน”

ภายใต้กฎหมายใหม่ อีซีสามารถกำหนดค่าปรับสูงสุดถึง 10% ของมูลค่าการซื้อขายทั่วโลกของบริษัท ซึ่งตัวเลขข้างต้นอาจเพิ่มขึ้นถึง 20% สำหรับผู้กระทำผิดซ้ำ อีกทั้งในสถานการณ์ที่รุนแรง อียูก็สามารถสั่งยุบบริษัทได้

ทั้งนี้ ดีเอ็มเอ มีความแตกต่างจากกฎหมายแบบดั้งเดิม ซึ่งใช้เวลาในการตรวจสอบนานหลายปี โดยกำหนดให้หน่วยงานกำกับดูแลต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน 12 เดือน นับตั้งแต่เริ่มการสอบสวน.

เครดิตภาพ : AFP