เมื่อเวลา 11.25 น. วันที่ 27 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ครั้งที่ 2/2567 ว่า เรื่องที่ประชุมวันนี้ของดิจิทัลวอลเล็ต ได้รับทราบว่าเศรษฐกิจมีปัญหา มีความจำเป็นต้องมีการกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากมีการเติบโตต่ำของจีดีพีมาตลอด 10 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมีการเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีความเจริญเติบโตสูงกว่าเราเป็นเท่า ทางกระทรวงการคลังได้เสนอความเป็นไปได้ของแหล่งเงินในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต นอกเหนือจากการออกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เงินกู้ ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณไปดำเนินการ และรายงานในที่ประชุมใหญ่วันที่ 10 เม.ย. 

นายกฯ กล่าวว่า นอกจากนี้ได้มอบให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) และบอร์ดรัฐบาลดิจิทัล สรุปการพัฒนาระบบและการจัดทำในลักษณะเปิด (Open loop) เพื่อให้สถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจกระเป๋าเงินเข้าร่วมโครงการ  และรายงานที่ประชุมในวันที่ 10 เม.ย. รวมถึงได้มอบให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) วางกรอบการตรวจสอบ วินิจฉัยร้องทุกข์กล่าวโทษ และการเรียกเงินคืน โดยให้รายงานในวันที่ 10 เม.ย. ด้วยเช่นกัน

“วันที่ 10 เม.ย. ได้ข้อสรุปทั้งหมด และเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาภายในเดือน เม.ย. ยืนยันกรอบไทม์ไลน์ตามที่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง แถลง โดย 1. ไตรมาสที่ 3 ลงทะเบียนร้านค้าและประชาชน 2. ไตรมาสที่ 4 เงินถึงมือประชาชน ซึ่งที่ประชุมวันนี้เห็นแล้วว่า ประชุมกันประมาณครึ่งชั่วโมง ทุกภาคส่วนเห็นด้วยหมด ไม่ว่าจะเป็นเลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เห็นด้วยในขั้นตอนทั้งหมด ฉะนั้นเดี๋ยวคอยฟังข่าวดีในวันที่ 10 เม.ย.” นายเศรษฐา กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมดังกล่าว นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ไม่ได้เข้าร่วมการประชุมเนื่องจากติดภารกิจ แต่ได้มอบ นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย มาเข้าร่วมการประชุมแทน.