สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 27 มี.ค. ว่า บริษัท โอจิ โฮลดิงส์ จะยุติการผลิตผ้าอ้อมเด็กทารกภายในประเทศ ในเดือน ก.ย. นี้ หลังการผลิตลดลงจากระดับสูงสุดในปี 2544 ประมาณ 700 ล้านชิ้นต่อปี เหลือ 400 ล้านชิ้นต่อปี ในปัจจุบัน

“ความต้องการผ้าอ้อมเด็กลดลงอย่างต่อเนื่อง เพราะปัจจัยต่าง ๆ รวมถึงอัตราการเกิดที่ลดลง” โฆษกของโอจิ โฮลดิงส์ กล่าว แต่เขายืนยันว่า บริษัทจะยังคงจำหน่ายผ้าอ้อมเด็กในญี่ปุ่นต่อไป จนกว่าสินค้าจะหมด

นอกจากนี้ โฆษกยังกล่าวเพิ่มเติมว่า โอจิ โฮลดิงส์ จะเพิ่มการผลิตสินค้าสุขภัณฑ์สำหรับผู้ใหญ่ในประเทศ โดยคาดว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในสถานที่ต่าง ๆ เช่น บ้านพักคนชรา ซึ่งบริษัทระบุในแถลงการณ์ว่า ญี่ปุ่นมีจำนวนประชากรสูงอายุมากเป็นอันดับสองของโลก รองจากโมนาโก และตลาดผ้าอ้อมผู้ใหญ่ “คาดว่าจะเติบโตภายในประเทศ”

อย่างไรก็ตาม โอจิ โฮลดิงส์ ระบุเสริมว่า บริษัทจะ “รักษาและขยาย” การผลิตและการจำหน่ายผ้าอ้อมเด็กในต่างประเทศ รวมถึงในอินโดนีเซีย และมาเลเซีย โดยคาดหวังถึงการเติบโตของตลาดในประเทศเหล่านั้น

อนึ่ง อัตราการเกิดของญี่ปุ่นเมื่อปีที่แล้ว ร่วงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และลดลงเป็นปีที่ 8 ติดต่อกัน ซึ่งตัวเลขผู้เสียชีวิตในประเทศ สูงกว่าจำนวนทารกเกิดใหม่ถึง 2 เท่า.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES