เมื่อวันที่ 27 มี.ค. นายจุลพงศ์ อยู่เกษ สส.พรรคก้าวไกล แถลงข่าวเกี่ยวกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาล ว่า ตามที่รัฐบาลแถลงว่าจะมีการแจกเงินตามโครงการดิจิทัลวอลเล็ตในเดือน ต.ค. 67 โดยจะแจกครบคนละ 10,000 บาท จำนวน 50 ล้านคน แต่ไม่สามารถตอบคำถามได้ว่าจะนำเงินมาจากที่ใด โดยหากจะแจกจริง ก็คาดว่ารัฐบาลคงนำเงินรายจ่ายในโครงการไปใส่ไว้ในงบประมาณรายจ่าย ปี 2568 ที่จะเริ่มจ่ายในเดือน ต.ค. 67 ซึ่งเป็นการเริ่มปีงบประมาณพอดี แต่เงินจำนวนมากเช่นนี้คงจะใส่ในงบประมาณรายจ่ายปีเดียวไม่ได้ คงต้องทยอยใส่ในปีงบประมาณต่อๆ ไปจนกว่าจะครบ ซึ่งหากรัฐบาลจะหาเงินโดยวิธีการออก พ.ร.ก. ก็จะไม่เข้าเงื่อนไขการออก พ.ร.ก. ตามรัฐธรรมนูญ หากรัฐบาลจะหาเงินโดยการออก พ.ร.บ.เงินกู้ตามมาตรา 53 ของ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง พ.ศ. 2561 เพราะหากสภาวะทางเศรษฐกิจของไทยทรงตัวอยู่ในสภาพนี้ ที่ไม่ใช่วิกฤติ จะไม่เข้าเงื่อนไขตามมาตราดังกล่าวในการเสนอ พ.ร.บ.เงินกู้

นายจุลพงศ์ กล่าวต่อว่า ประกอบกับรัฐบาลคงจะพิจารณาข้อเสนอแนะของคณะกรรมการกฤษฎีกาและคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดีแล้ว หากรัฐบาลวางแผนจะนำวงเงิน 500,000 ล้านบาท ไปใส่ไว้ในงบประมาณรายจ่าย ปี 2568 ก็เป็นไปไม่ได้เพราะกรอบวงเงินงบประมาณไม่เอื้ออำนวยให้ทำได้ รัฐบาลคงทำได้วิธีเดียวคือการทยอยนำวงเงิน 500,000 ล้านบาทบางส่วน โดยนำ 200,000 ล้านบาท ไปใส่ไว้ในงบประมาณรายจ่าย ปี 2568 งบประมาณรายจ่าย ปี 2569 และงบประมาณรายจ่าย ปี 2570 ซึ่งเป็นเวลาที่จะมีการเลือกตั้งทั่วไปอีกครั้งในปี 2570 พอดี ตนจึงจะตามดูร่างงบประมาณรายจ่าย ปี 2568 ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรประมาณเดือน มิ.ย. นี้ ว่าจะเป็นอย่างไร ทั้งนี้ หวังว่ารัฐบาลจะสามารถทำได้หลังจากที่เลื่อนมาหลายครั้ง และขอให้ประชาชนทำใจว่าการรับเงินตามโครงการดิจิทัลวอลเล็ต หากทำได้ก็อาจจะไม่ได้รับเงินทีเดียว 10,000 บาท และคงไม่ได้รับเงินครบ 50 ล้านคน.