เมื่อวันที่ 2 เม.ย. ที่พระวิหารหลวง วัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา นางเอมอร ศรีกงพาน ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา เข้าร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระราชกุศลและเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ โดยมี พระพรหมวชิรนายก ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 11 และเป็นเจ้าอาวาสวัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานฝ่ายฆราวาส นอกจากนี้ยังมี พล.ต.ต.ณรงค์ฤทธิ์ ด่านสุวรรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ และพุทธศาสนิกชนเข้าร่วมพิธี

สำหรับประวัติของวัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร นั้นเป็นวัดที่ตั้งอยู่กลางใจเมือง ติดกลับศาลหลักเมือง เรียกกันมาตั้งแต่สมัยโบราณว่า “วัดกลาง” หรือ “วัดกลางนคร วรวิหาร” โดยถือเอาสถานที่ตั้งเป็นสำคัญ แล้วเรียกชื่อวัดอื่นๆตามที่ตั้งอยู่ทิศต่างๆ ตามชื่อทิศ เช่น วัดบูรพ์ (บูรพา) วัดอิสาน วัดพายัพ และวัดบึง วัดสระแก้ว รวม 6 วัด ที่ตั้งอยู่ภายในกำแพงเมือง โดยถือเอาวัดพระนารายณ์เป็นจุดศูนย์กลาง

วัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร หรือวัดกลางนคร จัดเป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองที่ประชาชนให้ความเคารพนับถือ ในสมัยก่อนมีพิธีอย่างหนึ่งคือ พิธีที่ข้าราชการทุกแผนก จะต้องสาบานตนว่าตนจะต้องรับราชการสนองพระเดชพระคุณด้วยความจงรักภักดี ปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต พิธีนี้เรียกว่า พิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา ทางราชการได้ใช้วัดพระนารายณ์มหาราช วรวิหาร เป็นสถานที่ในการประกอบพิธี รวมทั้งให้เป็นสถานที่ทำพิธีสวดเสกน้ำพระพุทธมนต์ถวายในงานพระราชพิธีเสวยราชสมบัติ

เคยเป็นที่ตั้งอนุสาวรีย์บรรจุอัฐิของท้าวสุรนารี ตรงมุมทิศพายัพของวัด ต่อมา พ.ศ. 2477 จึงได้ย้ายออกจากวัดไปประดิษฐานที่ประตูชุมพลจนทุกวันนี้ ในปัจจุบันวัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร ยังมีศิลปะวัตถุ พร้อมทั้งแบบสถาปัตยกรรมของสมัยกรุงศรีอยุธยา และปูชนียสถานภายในวัดประกอบด้วย พระอุโบสถที่ตั้งอยู่เกาะกลางสระบัวทิศตะวันออกของวัด พระวิหารหลวงและเทวรูปพระนารายณ์สี่กร จำหลักด้วยหินทรายฝีมือขอมโบราณ อันเป็นสัญลักษณ์แสดงพระนามผู้สร้างวัด