เมื่อวันที่ 7 เม.ย. นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม (กมธ.) สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการพบสารแคดเมียมในพื้นที่อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ว่า จากการตรวจสอบพบว่ากากแคดเมียมที่เจอในจังหวัดชลบุรีนั้น ล่าสุดทราบจากเจ้าหน้าที่ว่าตรวจสอบโดยละเอียดแล้วมีจำนวน 4,400 ตัน ไม่ใช่ 6,000 ตัน จึงเป็นหน้าที่ของภาครัฐที่จะต้องเร่งสืบสวน เพื่อค้นหากากเคมีอันตรายส่วนที่เหลือต่อไป ประเด็นที่น่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง คือ นายหน้าขายกากแร่จากสมุทรสาคร คนเช่าพื้นที่โรงงานที่ชลบุรี เพื่อส่งออกกากแร่และเจ้าของโรงงานที่ชลบุรี ล้วนเป็นเครือข่ายคนจีน ที่มีความเชื่อมโยงกับกรณีพบกากแร่อันตรายที่จังหวัดสมุทรสาครที่มีการขนย้ายมาจากจังหวัดตาก

“เรื่องนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับเครือข่ายทุนจีนสีเทาในธุรกิจอุตสาหกรรม ที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรมต้องเร่งสอบสวนถึงความเชื่อมโยง และเร่งดำเนินการนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด ดังนั้นจึงขอเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ตำรวจได้สอบสวนและดำเนินคดีกับเครือข่ายนี้แบบถอนรากถอนโคน เพราะที่ผ่านกรรมาธิการอุตสาหกรรม สภา ได้เคยสอบพบเครือข่ายดังกล่าวทำผิดกฎหมายโรงงานอุตสาหกรรมซ้ำซาก เป็นเหตุให้นำไปสู่การจับกุมดำเนินคดีมาแล้ว โดยมีกรรมาธิการอุตสาหกรรม สภา เป็นผู้ชี้เป้าให้หน่วยงานภาครัฐไปดำเนินการอย่างเด็ดขาด” นายอัครเดช กล่าว 

นายอัครเดช กล่าวต่อว่า จึงขอเรียกร้องให้นายกฯ สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ยกวาระนี้ขึ้นมาเป็นวาระแห่งชาติ โดยให้ตำรวจทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องดำเนินการสอบสวนเครือข่ายนี้อย่างจริงจัง เพื่อนำคนผิดมาลงโทษ และขับออกนอกประเทศ เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างให้คนต่างชาติที่เป็นนายทุนมากระทำความผิดกับคนไทยและประเทศไทยอีกต่อไป  เพราะทุนจีนเทาด้านอุตสาหกรรมจะส่งผลเสียต่อความมั่นคงด้านเศรษฐกิจและเป็นภัยต่อสิ่งแวดล้อมที่จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของพี่น้องประชาชนคนไทย.