กรณีผู้ปกครองเด็กหญิง 3 คน นักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.เมืองเชียงใหม่ แจ้งความตำรวจ กก.4 บก.ปคม. ว่าถูก นายชัยณรงค์ โค้ชทีมวอลเลย์บอลของโรงเรียนทำอนาจาร โดยอาศัยจังหวะช่วงเดินทางไปแข่งขันที่ จ.อุดรธานี ซึ่งจะต้องมีการพักที่รีสอร์ทเดียวกัน แต่แยกผู้ปกครองออกจากเด็ก และให้เด็กไปนอนกับตนเอง ก่อนกระทำอนาจาร นอกจากนี้ ยังมีการให้เด็กนักกีฬาไปอยู่ที่บ้านของตนเอง โดยอ้างกับผู้ปกครองว่าจะต้องเก็บตัวเตรียมแข่งขัน ก่อนมาถูกจับกุมตัวได้ที่บ้านพักหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 5 ต.ดอนแก้ว อ.สารภี จ.เชียงใหม่ แต่ให้การปฏิเสธ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

รวบโค้ชวอลเลย์บอลโรงเรียนดังอนาจารศิษย์ ซ้ำให้เด็กไปช่วยทำธุรกิจที่บ้าน

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 9 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม. ได้มอบหมาย พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.ปคม. เดินทางมาร่วมประชุมกับนางปวีณา ที่มูลนิธิปวีณาฯ เพื่อรายงานการจับกุมและการสอบสวนขยายผล โดยนางปวีณา กล่าวว่า ขอขอบคุณที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้โดยเร็ว โดยเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องใกล้ตัวที่เกิดขึ้นกับเด็กๆ ผู้กระทำเป็นครู ทั้งนี้ ครอบครัวต้องเป็นเกราะกำบังให้กับลูกหลานและพูดคุยกับลูกหลานให้มาก เพราะบางครั้งเด็กมีอะไรจะไม่กล้าบอก

นางปวีณา กล่าวอีกว่า โดยตำรวจ ปคม. ดูแลเรื่องนี้โดยตรง จะจัดการกับผู้กระทำผิดอย่างเด็ดขาด และให้การช่วยเหลือกับผู้เสียหาย เรื่องนี้ไม่ได้ซับซ้อนอะไร การที่ผู้ต้องหาปฏิเสธก็เป็นสิทธิของผู้ต้องหาที่จะกระทำได้ และทางตำรวจก็ได้สอบปากคำและรวบรวมพยานหลักฐานจนขอศาลอนุมัติออกหมายจับในข้อหา “กระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ที่อยู่ในความดูแล, พาหรือพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่อการอนาจาร” เมื่อวันที่ 5 เม.ย. 67

นางปวีณา กล่าวว่า ฝากเตือนภัยเด็กๆ และพ่อแม่ผู้ปกครอง ต้องดูแลลูกหลานอย่างใกล้ชิด เรื่องนี้ถือเป็นภัยสังคมอย่างร้ายแรง ครูกระทำกับเด็ก เวลาไปเก็บตัว ครูก็ไปนอนกับนักเรียนที่เป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิง และห้ามพ่อแม่ไม่ให้นนอนกับลูก ซึ่งเป็นเรื่องที่ละเมิดสิทธิและไม่ถูกต้อง พ่อแม่ผู้ปกครองต้องสอดส่องดูแลลูกหลานให้ดี ไม่มีใครต้องการมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับสังคมเรา หรือที่ไหนก็ตาม ทั้งนี้ มูลนิธิปวีณาฯ จะให้การช่วยเหลือเด็กหญิงทั้ง 3 คน ในเรื่องการฟื้นฟูสภาพจิตใจ และให้กลับไปเรียนหนังสือได้ตามปกติสุข และประสานกรมคุ้มครองสิทธิ กระทรวงยุติธรรม เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับเงินเยียวยาต่อไป

พ่อแม่เหยื่อ กล่าวว่า ลูกสาวของพวกตนทั้ง 3 คน เล่าอีกว่า ครูเคยเรียกเด็กทั้ง 3 คน ไปถามว่า มีอะไรปิดบังครูไหม เด็กๆ ตอบไปว่า ก็ครูทำหนูกับเพื่อนทำไม แต่ครูพละก็ปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่อง และยังย้อนถามเด็กๆ ว่า ครูทำจริงเหรอ ทำตอนไหน จากนั้นยังอ้างว่า จำไม่ได้ คงเป็นเพราะวันนั้นกินยาแก้แพ้เข้าไป เลยทำไปไม่รู้ตัว คงจะแค่มือปัดไปโดนเท่านั้น ครูขอโทษ ทั้งๆ ที่เด็กๆ ยืนยันและมีหลักฐาน จนตำรวจออกหมายจับดังกล่าว