เมื่อวันที่ 11 เม.ย. ที่ห้องประชุมแจ้งยอดสุข อาคารศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากร และสวัสดิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีที่ประชาชนมีความกังวลว่าจะได้รับอันตรายจากกากแคดเมียมที่ซุกซ่อนในหลายพื้นที่นั้น เบื้องต้นได้มีการประกาศปิดบางพื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเทศกาลสงกรานต์ จึงไม่มีความกังวลในเรื่องดังกล่าว อีกทั้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการประสานกับกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อเข้าตรวจสอบมาโดยตลอด หากมีการแจ้งความดำเนินคดีก็จะบังคับใช้กฎหมายไปตามอำนาจหน้าที่ แต่จะมีการพิจารณาตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นมาดำเนินการและรวบรวมสำนวนคดีที่เกิดขึ้นในหลายท้องที่มาไว้ที่เดียวกันหรือไม่นั้น ยังอยู่ระหว่างหารือกับกระทรวงอุตสาหกรรมและพิจารณาความพร้อมก่อน

รรท.ผบ.ตร. กล่าวว่า ส่วนการติดตามตัวนายเจษฎา หุ้นส่วนบริษัทเจแอนด์บี เมทอล จำกัด ที่เช่าโกดังใน ต.บางน้ำจืด จ.สมุทรสาคร สำหรับเก็บกากแคดเมียม เพื่อเข้ามาให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่เก็บกากแคดเมียมนั้น ยังคงต้องให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย คือการออกหมายเรียก หากไม่มาตามหมายเรียกก็จะพิจารณาติดตามตัวต่อไป และหากการสืบสวนสอบสวนพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างแน่นอน

ด้าน นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ รองอธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า จากการสอบถามข้อมูลกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นผู้มีหน้าที่ออกใบอนุญาตการนำเข้าส่งออกแร่และสินแร่ต่างๆ ทราบว่ากรณีนี้ตรวจพบกากแคดเมียมเกือบครบแล้วทั้งหมด ยังไม่ได้มีการลักลอบส่งออกหรือสำแดงเท็จเพื่อเลี่ยงใบอนุญาตส่งออกไปต่างประเทศแต่อย่างใด แต่ยอมรับว่าหากมีการสำแดงเท็จเป็นทองแดง กรมศุลกากรจะไม่สามารถตรวจสอบด้วยตาเปล่าได้ว่าเป็นแคดเมียมหรือไม่ ต้องใช้ผู้ที่มีความรู้จึงจะสามารถพิสูจน์ได้ ดังนั้นการตรวจสอบสินค้าทางกรมศุลกากรจะเชื่อจากใบอนุญาตส่งออกเป็นหลัก และยืนยันว่าที่ผ่านมากรมศุลกากรได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆกว่า 23 หน่วยงาน เพื่อกำกับดูแลสินค้านำเข้าส่งออกมาโดยตลอด.