เรียกได้ว่ากำลังกลายเป็นกระแสฮอตมาแรงในหมู่คนรัก และสะสมอาร์ตทอย (Art toy) อยู่ในขณะนี้ สำหรับเจ้าตัว “Labubu” หรือ “ลาบูบู้” เจ้าปิศาจหูยาว เขี้ยวแหลม ที่มาในคาแรกเตอร์มอนสเตอร์ที่อยู่ในชุดกระต่าย มีดวงตาที่ใหญ่โต ปากกว้าง ฟันหยัก ไม่มีหาง โดยส่วนมากจะนิยมนำมาใช้เป็นพวงกุญแจ นอกจากนี้สิ่งที่ทำให้กระแสแรงขึ้นมาอีกนั่นก็คือหลังจากที่ “ลิซ่า Blackpink” โพสต์ภาพถ่ายลงอินสตาแกรม โชว์กล่อง “Labubu Macaron” ทำให้ราคาเจ้าปิศาจหูยาว เขี้ยวแหลม พุ่งไปไกลกว่าเดิม

โดยลาบูบู้ วางขายใน POP MART ร้านอาร์ตทอยชื่อดังจากจีน ส่วนราคาจะขึ้นอยู่กับตัวละครและขนาด เช่น พวงกุญแจลาบูบู้ มาการอง ราคาประมาณ 400-1,000 บาท ฟิกเกอร์ลาบูบู้ ราคาประมาณ 1,000-5,000 บาท

แต่สำหรับ Labubu Macaron วางขายใน POP MART ด้วยราคากล่องสุ่ม 1 กล่องเพียง 550 บาท และเป็นที่ต้องการของนักสะสมอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว แต่หลังจากลิซ่า ได้โพสต์ภาพถ่ายอินสตาแกรม ทำให้ราคาของเจ้าลาบูบู้รุ่นนี้จากปกติราคาในช็อปอยู่ที่ 550 บาท ต่อ 1 กล่องสุ่ม และ 3,300 บาท ต่อซื้อยกบ็อกซ์ (6 ตัว) กระโดดไปสูงถึงกล่องสุ่ม 1 กล่องราคา 2,000-7,000 บาทเลยทีเดียว แถมยังส่งผลให้ราคาแบบยกบ็อกซ์ (เหมา 6 ตัว) นำไปขายต่อที่ราคาต่อ 1 การยกบ็อกซ์พุ่งทะลุหลักหมื่นบาทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดย “Labubu Macaron” หรือ “The Monster Exciting Macaron” จะมีจุดเด่นที่ตรงที่มีพวงกุญแจ และมีขนปุกปุย รวม 7 สีให้เก็บสะสม และยังสามารถแต่งตัวให้ได้ด้วย ซึ่ง 1 ใน 7 สี ตัวสีน้ำตาลเข้ม “Chestnut Cocoa” ถือว่าเป็นตัวแรร์สุดๆ (ตัวที่หายากมาก) ส่งผลให้ราคาดีดสูงเกือบ 1 หมื่นบาทแล้ว

ซึ่งหลังจากกระแส “ลาบูบู้ฟีเวอร์” ส่งผลให้ในประเทศไทยตอนนี้ของ “Sold out” เกลี้ยงช็อปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จนทำให้เกิดมีการรับหิ้วจากนักหิ้ว และเป็นเหตุผลที่ให้ราคาสูงตามที่เห็นบนโลกออนไลน์ วันนี้ “เดลินิวส์ออนไลน์” จึงอยากพาทุกคนมารู้จักกับ “ลาบูบู้” ว่าคืออะไรกันแน่ มีที่มาที่ไปอย่างไร?

สำหรับ “ลาบูบู้” เป็นผลงานของ “Kasing Lung” นักวาดภาพประกอบนิทานเด็กชาวฮ่องกงที่เติบโตในเนเธอร์แลนด์ และมีฝีมือการวาดภาพมาตั้งแต่เด็ก โดยเมื่อปี 2015 เขาเริ่มสร้างตัวละครเอลฟ์ ซึ่งต่อมากลายเป็นที่รู้จักในชื่อ “The Monsters” มี “เอลฟ์ลาบูบู้” เป็นหนึ่งในตัวละครหลักที่มาจากหนังสือภาพ “Mysterious Buka” ด้วยเส้นสีดำและสีขาวเป็นหลักและฝีแปรงที่ดุร้าย จนทำให้ลาบูบู้ และกลุ่มเอลฟ์ก็โด่งดังขึ้นมาทันที

และหลังจากนั้น POP MART และ HOW2 Work ก็ได้จับมือกันสร้างเจ้า Labubu ในรูปแบบอาร์ตทอยออกมา จนปัจจุบันมีให้เลือกซื้อถึง 300 แบบและมียอดขายที่เติบโตและได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆ

สำหรับคำถามที่ว่า ลาบูบู้ คือตัวอะไรกันแน่? คำตอบเรื่องนี้อ้างอิงได้จากที่ Kasing เล่าถึงแรงบันดาลใจของ ลาบูบู้ ไว้ว่า ตอนคิดตัวละครทั้งหมดใน “The Monsters” เขาเป็นคนที่ชื่นชอบตัวละครเอลฟ์และเทพนิยายยุโรปมากๆ เขาจึงอยากให้มีการออกแบบให้เอลฟ์ 2 ขั้วคือ เอลฟ์นิสัยดี และ เอลฟ์นิสัยดุร้าย นั่นจึงกลายมาเป็นไอเดียในการสร้าง “Labubu” ขึ้นมาเป็นเอลฟ์หูกระต่าย มีเขี้ยวแหลมคม ตามด้วยเอลฟ์อีกตัวคือ “Tycoco” เอลฟ์ที่ดูน่ากลัวด้วยหัวกะโหลก แต่กลับขี้อายเหมือนเด็กเก็บตัว

ส่วนด้าน “POP MART” หรือ “Pop Mart International Group Ltd” เป็นร้านอาร์ตทอยรายใหญ่จากประเทศจีนที่เปิดมาเพียง 14 ปีเท่านั้น มีจุดแข็งที่ทำให้ยอดขายถล่มถลายไปทั่วโลกเลยคือ การ Collab กับแบรนด์ดังหรือนักออกแบบชื่อดังออกคอลเลกชั่นอาร์ตทอย ไม่ว่าจะเป็น Labubu, MOLLY, DIMOO, SKULLPANDA และอื่นๆ โดย POP MART ได้มาเปิดสาขาแรกในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 66