สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากนครลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 12 เม.ย. ว่ารัฐแคลิฟอร์เนียประกาศ ห้ามทำการประมงปลาแซลมอนนอกชายฝั่ง เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน หลังปลามีจำนวนลดลงเพราะภัยแล้งและไฟป่า

การที่ปลาแซลมอนจำนวนไม่มากสามารถสืบพันธุ์สำเร็จ ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องของรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งสร้างงานได้กว่า 23,000 อัตรา โดยพวกเขาหวังว่า คำสั่งของกรมปลาและสัตว์ป่าแห่งแคลิฟอร์เนีย (ซีดีเอฟดับเบิลยู) จะช่วยให้ปริมาณปลาแซลมอนสายพันธุ์ชินุคเพิ่มขึ้นได้

นายชาร์ลตัน บอนแฮม ผอ.ซีดีเอฟดับเบิลยู กล่าวว่า แม้ฤดูหนาวในปีนี้และปีที่แล้วจะมีฝนตกชุก แต่ปลาแซลมอนที่มีแนวโน้มว่าจะได้รับประโยชน์จากสภาพอากาศแบบนี้ จะไม่กลับคืนสู่แคลิฟอร์เนีย จนกว่าจะถึงปี 2569-2570

“ปลาแซลมอนในยุคนี้ ได้รับผลกระทบจากปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อ 3-5 ปีที่แล้ว” เขากล่าว

ตลอดช่วง 20 ปีที่ผ่านมา รัฐแคลิฟอร์เนียได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ที่มีความรุนแรงขึ้นเป็นพิเศษจากภาวะโลกร้อน ส่งผลให้กระแสน้ำจืดมีอุณหภูมิอุ่นเกินไปสำหรับปลา พวกมันต้องว่ายทวนน้ำอย่างยากลำบากเพื่อสืบพันธุ์ และยากสำหรับลูก ๆ แซลมอนในการเอาชีวิตรอด

ในปี 2566 มีปลาแซลมอนอาศัยอยู่ทางตอนบนของแม่น้ำแซคราเมนโต เพียง 6,100 ตัว เมื่อเทียบกับช่วงระหว่างปี 2539-2548 ซึ่งมีการพบแซลมอนในแม่น้ำมากกว่า 175,000 ตัว หลังช่วงสืบพันธุ์

นายสกอตต์ มาร์ทิส ประธานสมาคมปลาแซลมอนแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย กล่าวว่า ไม่สามารถโทษภัยแล้งเพียงอย่างเดียว และกล่าวหานายกาวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ว่า บริหารจัดการน้ำไม่ดี นอกจากนี้ ภาคเกษตรกรรมใช้น้ำเป็นจำนวนมาก น้ำและทรัพยากรธรรมชาติของชาวแคลิฟอร์เนียและปลาแซลมอน ถูกขโมยไปเพราะผู้ว่าการคนนี้

อย่างไรก็ดี นิวซัมกล่าวว่า ได้ขอให้รัฐบาลกลางสนับสนุนทางการเงิน เพื่อชดเชยให้กับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการทำประมงแซลมอน

นอกจากนี้ มีการจัดสรรเงินมากกว่า 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 728 ล้านบาท) เพื่อชดเชยฤดูกาลตกปลาของปีที่แล้ว แต่ยังอยู่ภายใต้ข้อจำกัดบางอย่าง

อนึ่ง จากข้อมูลของสมาคมแซลมอนแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย อุตสาหกรรมแซลมอนในท้องถิ่น สร้างรายได้ประมาณ 1,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี (ราว 51,000 ล้านบาท)

เครดิตภาพ : AFP