เมื่อวันที่ 17 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลางดึกที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นที่บริเวณตลาดสดเทศบาลรัตนบุรี ถนนศรีนคร อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ โดยต้นเพลิงเกิดขึ้นที่บริเวณร้านขายผลไม้ ติดกับร้านขายของชำเบ็ดเตล็ด หัวมุมสี่แยก ถนนศรีนครตัดกับถนนศรีรัตน์ โดยเพลิงได้โหมไหม้ขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวซึ่งปลูกติดกันเป็นห้องแถวหลายคูหายาวหลายสิบห้องติดต่อกันไปจนถึงหน้าตลาดสดเทศบาลรัตนบุรี ซึ่งมีทั้งร้านขายยา ร้านทอง และร้านขายของเบ็ดเตล็ด โดยมีรถดับเพลิงจากตำบลใกล้เคียง 5 คันเร่งฉีดน้ำควบคุมเพลิง แต่ก็ไม่สามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ เนื่องจากสถาพที่เกิดเหตุเป็นอาคารไม้ทั้งหมดประกอบกับมีลมแรง เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานขอรถดับเพลิงสนับสนุนจากอำเภอต่างๆ อีกเป็นจำนวนมากกว่า 30 คันมาช่วยดับเพลิง พร้อมเจ้าหน้าที่กว่า 100 นาย

ต่อมา นายกิตติ สัตย์ซื่อ ปลัดจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งมาพักอยู่บ้านที่อำเภอรัตนบุรีช่วงเทศกาลสงกรานต์พอดีก็ได้ออกมาควบคุมอำนวยการ พร้อมกับ นายตวงอัฐ บุตรวิชา นายอำเภอรัตนบุรี และ พ.ต.อ.ธีระศักดิ์ เจริญศรี ผกก. สภ.รัตนบุรี และกำลังจากหน่วยกู้ภัยฮุก 31 จุดอำเภอรัตนบุรี หน่วยกู้ภัยสว่างบุรีรัมย์ และหน่วยผจญเพลิงจากจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมรถดับเพลิง และเจ้าหน้าที่กู้ภัยกว่า 100 นาย โดยได้สั่งการให้รถดับเพลิงเข้าสกัดหัวท้ายของเพลิง เพื่อป้องกันไม่ให้ลุกลามข้ามไปอีกฝั่งแต่ก็ไม่สามารถควบคุมเอาไว้ได้ ทำให้เพลิงลุกข้ามไปไหม้อาคารพานิชย์ 3 ชั้นที่อยู่ตรงข้างเพิ่มอีก 8 คูหา สถานการณ์ค่อนข้างจะวุ่นวาย เพราะรถดับเพลิงต่างน้ำหมด ต้องวิ่งไปเติมน้ำที่การประปาอำเภอรัตนบุรี ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 1 กม. ทำให้การดับเพลิงเป็นไปอย่าลำบาก ซึ่งภายในตลาดสดเทศบาลรัตนบุรีไม่มีท่อน้ำสำหรับใช้ดับเพลิง ซึ่งปกติในเขตเทศบาลจะต้องมีประจำไว้เป็นระยะๆ

จนเมื่อเวลาผ่านไป 1 ชั่วโมงก็ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ต้องระดมรถดับเพลิงจากในตัวจังหวัดสุรินทร์มาช่วยอีก โดยเพลิงได้ไหว้อาคารวอดไปแล้วกว่า 60 คูหา เบื้องต้นค่าเสียหายค่าดว่าน่าจะประมาณ 100 ล้านบาท เนื่องจากบริเวณนี้เป็นย่านธุรกิจใจกลางอำเภอ มีทั้งร้านทอง ร้านจำหน่ายผ้าไหมชื่อดัง ร้านขายยา และร้านค้าเบ็ดเตล็ดจำนวนมาก ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังอยู่ในระหว่างสอบสวน เบื้องต้นยังไม่พบว่ามีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต

ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงได้ในวงจำกัด และได้มีการเรียกประชุมวางแผนในการควบคุมเพลิงกันใหม่เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปในทางเดียวกันในการเข้าดับเพลิงที่ยังคงคุกรุ่นอยู่หลายจุด โดยเฉพาะในอาคารพานิชย์ 3 ชั้น จำนวน 8 คูหาที่อยู่ตรงข้ามกันจุดต้นเพลิง ซึ่งอาคารเริ่มมีการทรุดตัวจึงต้องใช้ความระมัดระวังและมีการปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าไปในตัวอาคารแล้ว

โดยผู้สื่อข่าวได้เข้าสำรวจบริเวณจุดหน้าตลาดสดเทศบาลรัตนบุรี ซึ่งมีร้านทองและร้านขายผ้าไหม ซึ่งเป็นร้านขายผ้าไหมที่ขึ้นชื่อของอำเภอรัตนบุรี ปรากฏว่าผู้เพลิงไหม้เสียหายเป็นจำนวนมาก โดยได้พบกับ นายวีรวุฒิ ครุฑสุวรรณ ประธาน OTOP และ ผู้จัดการร้านครุฑสุวรรณ ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายผ้าไหมชื่อดังของอำเภอรัตนบุรีที่ถูกเพลิงไหม้ กล่าวว่า ตอนเกิดเหตุตนนอนอยู่บนบ้าน และมีไฟฟ้าดับ จึงได้มองออกไปดูทางหน้าต่างก็พบว่ามีเปลวเพลิงเกิดขึ้นจึงได้รีบพากันออกจากบ้าน โดยพาเอาคนแก่และเด็กออกมาก่อน และช่วยกันขนของออก เนื่องจากเพลิงได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็วมาก เพราะส่วนใหญ่จะเป็นอาคารไม้ที่อยู่ติดกัน แต่ก็ขนของออกมาได้เพียงบางส่วนซึ่งเป็นผ้าไหมราคาแพงไม่สามารถเอาออกมาได้ทันจึงถูกเพลิงไหม้ไปทั้งหมด ค่าเสียหายตอนนี้ ยังไม่สามารถประเมินได้

และผู้สื่อข่าวก็ยังได้พบกับเจ้าของร้านค้าที่ไปพักออาศัยอยู่ที่อื่น เมื่อทราบเหตุก็ได้เดินทางมาดูร้านค้าของตน แต่ก็ไม่สามารถนำทรัพย์สินใดๆ ออกมาได้เพระเพลิงได้เผาไปหมดแล้วก็ได้แต่ยืนร้องไห้กอดคอกันเป็นที่น่าสลดใจกับผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง

จากการสอบถามชาวบ้านที่ทราบเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ได้มีการจัดงานสงกรานต์วันไหลขึ้นที่บริเวณหน้าวัดกลาง ซึ่งอยู่ห่างจะจุดเกิดเหตุไปประมาณ 300 เมตร และมีกลุ่มวัยรุ่นทะเลาะวิวาทกัน และมีการวิ่งไล่กันมาหลบอยู่ในบริเวณจุดต้นเพลิง จากนั้นก็ได้ยินเสียงดังปังเหมือนเสียงประทัดเกิดขึ้น จากนั้นไม่นานก็เกิดเพลิงไหม้ขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณนั้นอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้งในตอนรุ่งเช้า สำหรับเหตุการณ์นี้เบื้องต้นจากการสำรวจพบเพลิงได้ไหว้อาคารวอดไปแล้วกว่า 60 คูหา ค่าเสียหายคาดว่าน่าจะประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งจะได้ทำการสำรวจและประเมินอีกครั้งในช่วงเช้าวันนี้