สำนักข่าวซินหัวรายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 30 เม.ย. ว่า นายอัลเบิร์ต ปาร์ก หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์เอดีบี กล่าวว่า การบริโภคของภาคเอกชนที่แข็งแกร่ง การใช้จ่ายในโครงสร้างพื้นฐานสาธารณะ และการลงทุนที่เพิ่มขึ้น จะช่วยรักษาอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)


นอกจากนั้น เอดีบีคาดการณ์ว่า การจัดการด้านอุปทานที่ดีขึ้นและการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัว จะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อลดลงจาก 3.7% เมื่อปี 2566 เหลือ 2.8% ในปีนี้ และปี 2568 และคาดว่าการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา จะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นของนักลงทุนและบริษัท


อย่างไรก็ดี ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังมีโอกาสที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูง ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ และผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ซึ่งอาจส่งผลต่อห่วงโซ่คุณค่าระดับโลก และเร่งการเกิดผลกระทบรุนแรงยิ่งขึ้นในภาคการค้า


เอดีบีคาดการณ์ว่า อินโดนีเซียจะมีรายได้สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้และขาดดุลการค้าลดลง ส่วนการใช้จ่ายในปี 2567 จะเพิ่มขึ้น 6.1% และรายได้เพิ่มขึ้น 1%.

ข้อมูล : XINHUA

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES