สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 30 เม.ย. ว่า คณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) กำหนดให้ระบบ “ไอแพดโอเอส” (iPadOS) ของแอปเปิล เป็น “บริการหลัก” ภายใต้กฎหมายตลาดดิจิทัล (ดีเอ็มเอ) ซึ่งบังคับให้บริษัทต่าง ๆ ปรับเปลี่ยนวิธีดำเนินธุรกิจของพวกเขา เพื่อส่งเสริมการแข่งขันระหว่างแพลตฟอร์มออนไลน์
นอกจากระบบปฏิบัติการไอแพดโอเอส แอปเปิลยังมีผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่อยู่ภายใต้ดีเอ็มเอ ตั้งแต่เดือน ก.ย. ปีที่แล้วเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ระบบปฏิบัติการไอโอเอส (iOS) สำหรับไอโฟน, แอปสโตร์ และเว็บเบราว์เซอร์ซาฟารี
ภายใต้ดีเอ็มเอ บริษัทดิจิทัลที่ได้รับการกำหนดให้เป็น “ผู้ควบคุมกลั่นกรองของตลาด” จะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบต่าง ๆ รวมถึงการอนุญาตให้ผลิตภัณฑ์ของตนเอง สามารถทำงานร่วมกับบริการการสื่อสารของคู่แข่ง และการจำกัดวิธีแบ่งปันข้อมูล ระหว่างผลิตภัณฑ์ที่มาจากบริษัทแม่เดียวกัน
อนึ่ง การรวมระบบไอแพดโอเอส เป็นบริการหลัก ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่เพิ่มความขัดแย้งที่มีมาอย่างยาวนาน ระหว่างอียูกับแอปเปิล เกี่ยวกับกฎหมายดิจิทัลฉบับใหม่ของกลุ่ม ซึ่งแอปเปิลอ้างว่า กฎหมายดังกล่าวนำภัยคุกคามต่อความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัยมาสู่ผู้ใช้ ส่วนอีซี ระบุว่า คณะกรรมาธิการเพิ่มระบบไอแพดโอเอส ลงในรายชื่อภายใต้ดีเอ็มเอ เนื่องจากมันป้องกันไม่ให้ผู้ใช้งานเข้าถึงระบบปฏิบัติการอื่น ๆ
นอกจากนี้ อีซีระบุเสริมว่า แอปเปิลมีเวลา 6 เดือน ในการปฏิบัติตามกฎหมายใหม่ ขณะที่ นางมาร์เกรเธอ เวสทาเกอร์ ข้าหลวงด้านการแข่งขันทางการค้าของอีซี กล่าวว่า การตัดสินใจข้างต้น จะช่วยทำให้แน่ใจว่า แพลตฟอร์มนี้ยังคงมีความเป็นธรรม และความสามารถในการแข่งขัน
ด้านแอปเปิล ระบุในแถลงการณ์หลังการประกาศของอียู ว่าบริษัทจะมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์กับอีซีต่อไป เพื่อปฏิบัติตามดีเอ็มเอ ในบริการที่กำหนดทั้งหมด.
เครดิตภาพ : AFP
