สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากจังหวัดด่งนาย ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 2 พ.ค. ว่า ชาวบ้านและสื่อท้องถิ่นแจ้งเหตุ ปลาหลายแสนตัวในอ่างเก็บน้ำตาย ซึ่งคาดว่าเกิดจากคลื่นความร้อนอันรุนแรง และการจัดการที่ไม่ถูกต้องของผู้ดูแล

เช่นเดียวกับพื้นที่อื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บางพื้นที่มีการออกคำสั่งให้โรงเรียนเลิกเร็วขึ้น และมีจำนวนการใช้ไฟฟ้าที่สูงขึ้น ขณะที่ภูมิภาคตอนกลางและตอนใต้ของเวียดนาม เผชิญกับสภาพอากาศร้อนจัด

นายเหงีย ชาวบ้านในอำเภอตรังบอมให้สัมภาษณ์ว่า “ปลาทั้งหมดในอ่างเก็บน้ำซองเมย์ตายเพราะขาดน้ำ และชีวิตของชาวบ้านก็เปลี่ยนไป เพราะกลิ่นเหม็นจากซากปลา”

ภาพถ่ายแสดงให้เห็นว่า ชาวบ้านกำลังเดินลุยน้ำและพายเรือ ผ่านอ่างเก็บน้ำซองเมย์ขนาด 300 เฮกตาร์ (ราว 1,875 ไร่) ซึ่งขณะนี้ ถูกปกคลุมไปด้วยซากศพของสิ่งมีชีวิตใต้น้ำ จนไม่สามารถมองเห็นผืนน้ำ

ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น พื้นที่ดังกล่าวไม่มีฝนตกหนักมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้ว และน้ำในอ่างเก็บน้ำก็มีระดับต่ำเกินไปสำหรับสิ่งมีชีวิตที่จะอยู่อาศัย

นายเหงียระบุเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ หน่วยงานกำกับดูแลอ่างเก็บน้ำปล่อยน้ำออกจากอ่าง เพื่อรักษาพืชผลที่อยู่ท้ายน้ำ

“หลังจากปล่อยน้ำ พวกเขาพยายามปรับปรุงอ่างเก็บน้ำโดยการนำปั๊มมาดูดโคลนออก เพื่อให้ปลามีพื้นที่และน้ำมากขึ้น” เขากล่าว ท้ายที่สุด ความพยายามดังกล่าวไม่ได้ผล และทำให้ปลาตายเป็นจำนวนมาก โดยมีรายงานว่าอาจมีปลาตายมากถึง 200 ตัน

บริษัทผู้รับผิดชอบจัดการอ่างเก็บน้ำ เริ่มขุดลอกพื้นที่เมื่อต้นปี 2567 เพื่อเตรียมปล่อยน้ำเพิ่มลงไปในอ่างเก็บน้ำ สื่อท้องถิ่นระบุว่า “หลังนักลงทุนปล่อยน้ำออกสู่บริเวณท้ายน้ำ ระดับน้ำที่ลดลงและคลื่นความร้อนที่รุนแรงเป็นสาเหตุให้ปลาตาย”

อ่างเก็บน้ำแห่งนี้เป็นแหล่งน้ำสำหรับพืชผล ในพื้นที่อำเภอตรังบอมและหวิญคู จังหวัดด่งนาย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนเหตุการณ์ดังกล่าว และรีบดำเนินการนำซากปลาออกจากอ่างเก็บน้ำ

“เราหวังว่าเจ้าหน้าที่จะพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อปรับปรุงสถานการณ์” นายเหงียกล่าวทิ้งท้าย

จากรายงานของนักพยากรณ์อากาศ อุณหภูมิในจังหวัดด่งนาย อยู่ห่างจากนครโฮจิมินห์ไปทางตะวันตก 100 กิโลเมตร มีอุณหภูมิสูงถึง 40 องศาเซลเซียส เมื่อเดือน เม.ย. ทำลายสถิติอุณหภูมิสูงสุดที่เคยถูกบันทึกไว้ เมื่อปี 2541.

เครดิตภาพ : AFP