สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 4 ต.ค.ว่าสำนักงานสาธารณสุขรัฐวิกตอเรีย ซึ่งมีเมืองเอกคือเมืองเมลเบิร์น เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของออสเตรเลีย รายงานผู้ป่วยยืนยันจากโรคโควิด-19 จำนวน 1,377 คนในรอบ 24 ชั่วโมงล่าสุด และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 4 ราย ภายในรอบวันเดียวกัน
ขณะที่ นพ.เบรตต์ ซัตตัน สาธารณสุขรัฐวิกตอเรีย กล่าวว่า จำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นผลจากการแข่งขันออสเตรเลียน รูลส์ ฟุตบอล เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ก่อนหน้านั้น ซึ่งแทบไม่มีประชาชนคนใดปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคของทางการ โดยผู้ป่วยจากคลัสเตอร์นี้ส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 10-29 ปี
ในเวลาเดียวกัน วันจันทร์ที่ 4 ต.ค. เป็นวันที่เมืองเมลเบิร์นผ่านพ้นครึ่งทางของการล็อกดาวน์ครั้งที่ 6 โดยหากนับตั้งแต่การล็อกดาวน์ครั้งแรก เมื่อสิ้นเดือน มี.ค.ปีที่แล้ว และเกิดขึ้นเป็นระยะจนถึงการล็อกดาวน์ครั้งล่าสุด เริ่มตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา เมืองเมลเบิร์นเข้าสู่การล็อกดาวน์เป็นวันที่ 246 ทำลายสถิติ 244 วัน ของกรุงบัวโนสไอเรส เมืองหลวงของอาร์เจนตินา 
ทั้งนี้ กำหนดการล็อกดาวน์เมืองเมลเบิร์นครั้งปัจจุบัน จะสิ้นสุดในวันที่ 26 ต.ค.นี้ เท่ากับว่า เมืองเมลเบิร์นจะอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์นานถึง 267 วัน อย่างไรก็ตาม ทางการรัฐวิกตอเรียยืนยันพร้อมผ่อนคลายมาตรการ เมื่อครบกำหนดล็อกดาวน์รอบล่าสุด และเมื่อสัดส่วนการรับวัคซีนครบของประชาชน ถึง 70% ในช่วงปลายเดือนนี้
ส่วนสถิติผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสมในออสเตรเลีย มีอย่างน้อย 113,411 คน เพิ่มขึ้น 2,019 คน เสียชีวิตสะสมอย่างน้อย 1,346 ราย เพิ่มขึ้น 12 ราย และยังมีผู้ติดเชื้อต้องรักษาตัวอยู่ในระบบอีกอย่างน้อย 29,659 คน.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES