สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลิมา ประเทศเปรู รายงานว่าประธานาธิบดีดีนา โบลูอาร์เต ผู้นำเปรู แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ หลังเข้าพบเจ้าหน้าที่สำนักงานอัยการสูงสุด ในกรุงลิมา เป็นเวลา 5 ชั่วโมง เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับ “ที่มาที่ไป” ของนาฬิกาข้อมือหรูยี่ห้อโรเล็กซ์ อย่างน้อย 3 เรือน ซึ่งพนักงานสอบสวนกล่าวว่า เป็นทรัพย์สินที่ผู้นำหญิงของประเทศไม่เคยระบุในแบบแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน

ทั้งนี้ โบลูอาร์เต วัย 61 ปี กล่าวว่า “เป็นความบกพร่องโดยไม่เจตนา” ที่เธอรับนาฬิกาข้อมือหรูเหล่านั้น “เป็นของที่ให้หยิบยืม” จากนายวิลเฟรดโด ออสกอริมา ซึ่งเป็นผู้ว่าการภูมิภาคอยากูโช และเป็นหนึ่งในพันธมิตรทางการเมืองของเธอ พร้อมทั้งยืนยันว่า ส่งนาฬิกาข้อมือทุกเรือนกลับคืนให้แก่ออสกอริมาแล้ว แต่จนถึงตอนนี้ ผู้ว่าการภูมิภาคอยากูโชยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการ

อย่างไรก็ตาม อัยการยังคงสงสัยเกี่ยวกับแหล่งที่มาของนาฬิกาหรูทั้งหมด ที่ตอนนี้สื่อในประเทศเรียกว่า “โรเล็กซ์เกต” ซึ่งโบลูอาร์เตได้รับระหว่างปฏิบัติหน้าที่รองประธานาธิบดี และรัฐมนตรีด้านการพัฒนา เมื่อปี 2564 โดยช่วงเวลาของการตรวจสอบครอบคลุมจนถึงเดือน ธ.ค. 2565 เมื่อโบลูอาร์เตขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดี หลังสภาลงมติถอดถอนประธานาธิบดีเปโดร กัสตีโญ ผู้นำในเวลานั้น จากข้อกล่าวหาคอร์รัปชั่น

อนึ่ง โบลูอาร์เตยังไม่ได้ชี้แจงอย่างชัดเจน เกี่ยวกับสร้อยข้อมือยี่ห้อ “คาร์เทียร์” ราคา 56,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.05 ล้านบาท) และ “เงินฝากไม่ทราบที่มา” 1.1 ล้านเปรูโซล (ราว 10.9 ล้านบาท) ซึ่งผู้นำหญิงของเปรูสวมสร้อยข้อมือดังกล่าว ในการปรากฏตัวตามสถานที่สาธารณะหลายครั้ง แต่เธอยืนยันว่า เครื่องประดับชิ้นนั้นไม่ใช่ยี่ห้อคาร์เทียร์

ส่วนประเด็นเงินฝากต้องสงสัย ผลการตรวจสอบในเบื้องต้นของอัยการพบว่า มีการฝากเข้าบัญชีส่วนตัวของโบลูอาร์เตหลายครั้ง ระหว่างปี 2559-2565.

เครดิตภาพ : AFP