สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ว่าองค์การอวกาศยุโรปเผยแพร่ภาพชุดที่ 2 จากกล้องยูคลิด โดยมีภาพกระจุกกาแล็กซีที่ส่องแสงเป็นจำนวนมาก, เนบิวลาสีม่วงและส้ม และกาแล็กซีกังหันที่รูปร่างคล้ายกับทางช้างเผือก
นับตั้งแต่ออกเดินทางไปจากโลก เมื่อปี 2566 กล้องยูคลิดจะมีเวลา 6 ปี ในการตรวจสอบความลึกลับของสสารมืด และพลังงานมืด ตามเป้าหมายในการสร้างแผนที่กาแล็กซี 2,000 ล้านแห่ง หรือ 1 ใน 3 ของท้องฟ้า
นายเรเน ลอเรจส์ นักวิทยาศาสตร์จากโครงการยูคลิด กล่าวว่า เขารู้สึก “ตื่นเต้นมากที่สุด” กับภาพของกระจุกกาแล็กซีขนาดมหึมาที่เรียกว่า “เอเบลล์ 2390” ซึ่งเป็นภาพของกระจุกดาวซึ่งห่างจากโลก 2,700 ล้านปีแสง ครอบคลุมกาแล็กซีมากกว่า 50,000 แห่ง ซึ่ง 1 กาแล็กซีสามารถเป็นบ้านของดาวฤกษ์นับแสนล้านดวง หรือมากกว่าล้านดวงได้
นายเจสัน โรดส์ เจ้าหน้าที่จากองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (นาซา) ระบุว่า เอเบลล์ 2390 เพียงแห่งเดียว อาจมีดวงอาทิตย์ประมาณ 10 ล้านล้านดวง และในภาพยังแสดงให้เห็นถึงสสารมืด ซึ่งไม่สามารถมองเห็นได้ แต่สามารถตรวจจับได้จากการสังเกตว่า แรงโน้มถ่วงของมันบิดเบือนแสงอย่างไร “มีสสารมืดมากมายในกระจุกดาวนี้ จนทำให้แสงจากดวงดาวด้านหลังบางดวงโค้งงออย่างรุนแรง” เชื่อกันว่าสสารมืดและพลังงานมืด มีสัดส่วนมากถึงร้อยละ 95 ของจักรวาล แต่มนุษย์แทบไม่ทราบอะไรเกี่ยวกับมัน
???? Euclid has delivered yet again…
— European Space Agency (@esa) May 23, 2024
Today, we release five never-before-seen, stunning images of galaxies and celestial phenomena provided by our Euclid telescope. They reveal an abundance of new science enabling scientists to hunt for rogue planets, use lensed galaxies to… pic.twitter.com/0gt60eBvQb
มากไปกว่านั้น ภาพของเอเบลล์ 2390 ยังสื่อเป็นนัยถึงสสารมืด ด้วยการเผยให้เห็นแสงสลัวของ “ดวงดาวกำพร้า” ที่ลอยอยู่ระหว่างกระจุกกาแล็กซี “ดาวเหล่านี้ถูกผลักออกจากกาแล็กซีสร้างเมฆชนิดหนึ่ง ที่ล้อมรอบกระจุกดาวทั้งหมด” นายฌอง-ชาร์ลส์ กุยลองเดร นักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศส ระบุ ทั้งนี้ กลุ่มนักดาราศาสตร์เชื่อว่า ปรากฏการณ์ประหลาดเหล่านี้ บ่งบอกถึงการมีอยู่ของสสารมืดระหว่างกาแล็กซี
นอกจากนี้ ยูคลิดได้จับภาพลึกที่สุดที่เคยมีมาของแมสซายเออร์ 78 แหล่งอนุบาลดาวฤกษ์ ที่ให้กำเนิดดวงดาวในกลุ่มดาวนายพราน ซึ่งอยู่ห่างจากโลก 1,300 ปีแสง ดวงดาวบริเวณกึ่งกลางสีน้ำเงินของภาพยังคงอยู่ในกระบวนการก่อตัว และหลังจากกระบวนการก่อตัวเป็นเวลาหลายล้านปี พวกมันจะโผล่ออกมาจากเมฆสีม่วง และสีส้มที่ด้านล่างของภาพ
“มีเพียงกล้องยูคลิดเท่านั้นที่สามารถจับภาพสิ่งเหล่านี้ได้ในครั้งเดียว” ลอเรจส์กล่าวย้ำ ซึ่งมันเป็นเพราะยูคลิดมีทัศนวิสัยที่กว้างขวางมาก ตรงกันข้ามกับกล้องโทรทรรศน์อวกาศอื่น ๆ อย่างเจมส์ เว็บบ์ ที่อยู่ห่างจากโลก 1.5 ล้านกิโลเมตร
ภาพกระจุกกาแล็กซีขนาดใหญ่ “เอเบลล์ 2764” แสดงให้เห็นพื้นที่สีดำซึ่งมีดาวสีเหลืองโดดเด่นดวงหนึ่ง นายกุยลองเดรยอมรับว่ามันเป็นผลมาจากข้อผิดพลาดในการถ่ายภาพ แต่ภาพนี้แสดงให้เห็นถึง “ความสามารถเฉพาะในการรวมแสงของกล้องยูคลิด” เพราะมันสามารถจับวัตถุที่จางมาก ซึ่งอยู่ถัดจากดาวฤกษ์ที่สว่างได้
นักวิทยาศาสตร์อธิบายว่า ภาพกระจุกดาวโดราโดวัยเยาว์จากกล้องยูคลิดมีความน่าประหลาดใจ แม้มันจะได้รับการศึกษามาอย่างดีแล้ว แต่ยูคลิดก็ค้นพบกาแล็กซีแคระที่ไม่เคยเห็นมาก่อน “ผมไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน” นายกุยลองเดรกล่าว
ในภาพที่ 5 กาแล็กซีกังหัน “เอ็นจีซี 6744” ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับทางช้างเผือกอย่างน่าทึ่ง แผ่กระจายโดยมีดวงดาวส่องแสงเป็นฉากหลัง
อย่างไรก็ดี นี่เป็นเพียงวันแรกของภารกิจ และภาพใหม่ทั้ง 5 ภาพได้ถูกถ่ายไว้ภายในวันเดียว โดยภายในไม่กี่ปีข้างหน้า นักวิทยาศาสตร์วางแผนที่จะกรองข้อมูลจากกล้องยูคลิด และมีความหวังว่า จะค้นพบเทหวัตถุในท้องฟ้า หรือวัตถุในอวกาศทุกประเภท เช่น ดาวเคราะห์กำพร้า ซึ่งลอยอย่างอิสระผ่านจักรวาลโดยไม่เชื่อมต่อกับดาวฤกษ์
ขณะที่ภาพถ่ายชุดแรกของกล้องยูคลิดได้ผ่านการวิเคราะห์โดยนักวิจัย ภายหลังการเผยแพร่เมื่อเดือน พ.ย. 2566
ทั้งนี้ ในรายงานล่าสุดที่มีการเผยแพร่ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์ตรวจสอบดาวเคราะห์กำพร้า ในกระจุกกาแล็กซีเพอร์ซีอุส “ขณะนี้ ดวงดาวที่หายสาบสูญติดอยู่ในแรงโน้มถ่วงของสสารมืด” ลอเรจส์อธิบายว่า สิ่งเหล่านี้ยังคงเป็นเพียงการตรวจจับสสารมืด “ทางอ้อม” และเขาระบุเพิ่มเติมว่า มันยังเร็วเกินไป ที่จะกล่าวถึงพลังงานมืด เนื่องจากภารกิจสำรวจสสารมืดยังคงไม่ราบรื่นนัก
เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา นักวิจัยประสบความสำเร็จ ในปฏิบัติการละเอียดอ่อนเพื่อละลายชั้นน้ำแข็งบาง ๆ ซึ่งบดบังการมองเห็นของกล้องโทรทรรศน์ ด้วยการทำให้กระจกของกล้องยูคลิดอุ่นขึ้น “มีสัญญาณว่าน้ำแข็งกำลังก่อตัวขึ้นอีกครั้ง” ลอเรจส์กล่าว พร้อมเสริมว่า ทีมงานยังมีเวลาในการตรวจสอบ ว่าต้องทำอย่างไรต่อไป.
เครดิตภาพ : AFP