นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมบนโครงข่ายทางหลวงภาพรวมหลายพื้นที่เริ่มคลี่คลาย ระดับน้ำลดลงต่อเนื่อง สามารถสัญจรได้ตามปกติ แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังบางพื้นที่ เนื่องจากมีฝนตกต่อเนื่อง จึงมอบให้หน่วยงานเร่งระบายน้ำ สำหรับเส้นทางที่ยังสัญจรไม่ได้ให้ติดตั้งป้ายเตือน หลักนำทาง ไฟกะพริบและป้ายแนะนำเส้นทางเลี่ยงเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน โดยพื้นที่ที่ยังคงมีระดับน้ำสูงส่วนใหญ่เป็นจุดกลับรถ เช่น จุดกลับรถใต้สะพานบ้านกุดกว้างระดับน้ำผิวทาง 200 ซม.บน (ทล.2 ท่าพระ-ขอนแก่น) และจุดอุโมงค์ท่าขอนยางระดับน้ำ 220 ซม. (ทล.213 มหาสารคาม-หนองขอน) เนื่องจากปริมาณน้ำสะสมจากฝนตกต่อเนื่อง ทำให้น้ำในแม่น้ำชีเอ่อล้นท่วมผิวจราจร

ขณะที่จุดกลับรถบางศาลาบนระดับน้ำ 135 ซม. (ทล.32 อ่างทอง-ไชโย) เนื่องจากคันกั้นน้ำจระเข้ร้องแม่น้ำเจ้าพระยาพัง เนื่องจากน้ำไหลแรงเข้ามาบริเวณคลอง จุดกลับรถคลองกะท่อระดับน้ำ 165 ซม.(ทล.32 นครหลวง-อ่างทอง) และ จุดกลับรถใต้สะพานสีกุกระดับน้ำ 195 ซม. (ทล.3263 อยุธยา-ไผ่กองดิน) เนื่องจากปริมาณน้ำในแม่น้ำน้อยสะสมจำนวนมากจากฝนตกต่อเนื่องทำให้เอ่อล้นท่วมผิวจราจรบริเวณใต้สะพาน

เมื่อเวลา 14.15 น. วันนี้ (24 ต.ค.64) พบทางหลวงถูกน้ำท่วม/ดินสไลด์ 12 จังหวัด ได้แก่ 1.จ.ขอนแก่น 2.มหาสารคาม 3.นครราชสีมา 4.นนทบุรี 5.อ่างทอง 6.พระนครศรีอยุธยา 7.สุพรรณบุรี  8.นครปฐม  9.สุโขทัย 10.ปราจีนบุรี 11.สระแก้ว และ 12.ลำปาง รวม 40 สายทาง 67 แห่ง การจราจรผ่านไม่ได้ 19 แห่ง ดังนี้ 1.ขอนแก่น (ผ่านไม่ได้ 1 แห่ง) ทล.2 ท่าพระ-ขอนแก่น ช่วง กม.ที่ 329+913 (จุดกลับรถใต้สะพานกุดกว้าง) ระดับน้ำสูง 200 ซม. 2.มหาสารคาม (ผ่านไม่ได้ 1 แห่ง) ทล.213 มหาสารคาม-หนองขอม กม.ที่ 5+530 (อุโมงค์ท่าขอมยาง) ระดับน้ำสูง 220 ซม. 3.นครราชสีมา (ผ่านไม่ได้ 1 แห่ง) ทล.202 ดอนตะหนิน-ตลาดไทร ช่วง กม.ที่ 93+611 ระดับน้ำสูง 10-30 ซม.

4.นนทบุรี (ผ่านไม่ได้ 3 แห่ง) ทล.302 สะพานพระนั่งเกล้า-ต่างระดับบางใหญ่ ช่วง กม.ที่ 16+610 (จุดกลับรถใต้สะพานคลองบางไผ่เพื่อมุ่งหน้าแคราย) ระดับน้ำสูง 20-25 ซม., ทล.302 สะพานพระนั่งเกล้า-ต่างระดับบางใหญ่ ช่วง กม.ที่ 16+950 (จุดกลับรถใต้สะพานคลองบางแพรกเพื่อมุ่งหน้าถนนแคราย) ระดับน้ำสูง 15-25 ซม., ทล.307 แยกสวนสมเด็จ-สะพานนนทบุรี ช่วง กม.ที่ 0+942 (จุดกลับรถใต้สะพานนนทบุรี) ระดับน้ำสูง 75 ซม. 5.อ่างทอง (ผ่านไม่ได้ 2 แห่ง) ทล.32 อ่างทอง-ไชโย ช่วง กม.ที่ 57+500 (จุดกลับรถบางศาลา) ระดับน้ำสูง 135 ซม., ทล.33 นาคู-ป่าโมก ช่วง กม.ที่ 36+000-36+200 (จุดกลับรถใต้สะพานฝั่งป่าโมก) ระดับน้ำสูง 20 ซม.

6.พระนครศรีอยุธยา (ผ่านไม่ได้ 5 แห่ง) ทล.32 นครหลวง-อ่างทอง ช่วง กม.ที่ 32+607 (จุดกลับรถคลองกะท่อ) ระดับน้ำสูง 165 ซม., ทล.32 นครหลวง-อ่างทอง ช่วง กม.ที่ 33+200 (จุดกลับรถวัดค่าย) ระดับน้ำสูง 95 ซม., ทล.3263 อยุธยา-ไผ่กองดิน ช่วง กม.ที่ 10+940 (จุดกลับรถใต้สะพานสีกุก) ระดับน้ำสูง 195 ซม., ทล.3263 อยุธยา-ไผ่กองดิน ช่วง กม.ที่ 11+100 (จุดกลับรถใต้สะพานสีกุก) ระดับน้ำสูง 195 ซม., ทล.3412 บางบาล-ผักไห่ ช่วง กม.ที่ 13+900-20+000 เป็นช่วง ๆ ระดับน้ำสูง 80 ซม.

7.สุพรรณบุรี (ผ่านไม่ได้ 5 แห่ง) ทล.33 สุพรรณบุรี-นาคู ช่วง กม.ที่ 9+886 (สะพานคลองทับน้ำ) ระดับน้ำสูง 100 ซม., ทล.340 สาลี-สุพรรณบุรี กม.ที่ 49+673-49+750 (สะพานสาลี) ระดับน้ำสูง 35-40 ซม., ทล.340 สาลี-สุพรรณบุรี กม.ที่ 59+674 (สะพานศาลเจ้าแม่ทับทิม) ระดับน้ำสูง 180 ซม., ทล.340 สาลี-สุพรรณบุรี กม.ที่ 71+230-71+620 (ช่องทางคู่ขนานซ้ายขวาทาง) ระดับน้ำสูง 50 ซม., ทล.3557 ถนนเข้าเมืองสุพรรณบุรี กม.ที่ 0+700-0+726 (ด้านซ้ายทาง) ระดับน้ำสูง 45 ซม.

และ 8.นครปฐม (ผ่านไม่ได้ 1 แห่ง) ทล.338 พุทธมณฑลสาย 4-นครชัยศรี ช่วง กม.ที่ 24+800-25+500 ระดับน้ำสูง 50 ซม. ทั้งนี้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม มอบแนวทางแก้ไขให้หน่วยงานเร่งรัดสำรวจซ่อมแซมฟื้นฟูเส้นทางสัญจรที่ได้รับความเสียหายจากสถานการณ์อุทกภัยเนื่องจากส่งผลกระทบต่อการเดินทางของประชาชนในหลายพื้นที่ และกำชับให้ออกแบบสายทาง โดยคำนึงถึงการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ ป้องกันน้ำท่วมก่อนช่วงฤดูฝนปี 65 เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล สำหรับประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทางโทรสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชม.)