นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลัง Mrs. Serap Ersoy เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐตุรกีประจำประเทศไทยและคณะเข้าเยี่ยมคารวะในโอกาสเข้ารับตำแหน่งว่า ได้มีการหารือหันเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างด้านการคมนาคมขนส่ง รวมทั้งหารือถึงบทบาทคมนาคมขนส่งของไทยที่มีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืนผ่านความเชื่อมโยงภายในประเทศและระหว่างภูมิภาค เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านการคมนาคมขนส่งของภูมิภาคอาเซียน โดยมีโครงการสำคัญ ได้แก่ การกระตุ้นเศรษฐกิจในกลุ่มจังหวัดพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ของประเทศไทย โดยการพัฒนารถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน สนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก

รวมทั้งการขยายเส้นทางทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 7 เพื่อเชื่อมต่อสนามบินอู่ตะเภา การพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 การบูรณาการระหว่างมอเตอร์เวย์และทางรถไฟทั่วประเทศ (MR-MAP) โครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย-อันดามัน (Landbridge ชุมพร-ระนอง) การจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติ ซึ่งเปิดรับการร่วมลงทุนกับต่างประเทศ แผนพัฒนาระบบรางของประเทศไทยทั้งรถไฟทางคู่ รถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล การพัฒนาระบบขนส่งมวลชนในเมืองใหญ่ โดยได้เชิญชวนให้นักลงทุนตุรกีที่สนใจมาร่วมลงทุนในประเทศไทย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและกระชับความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศด้วย

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ในส่วนสาธารณรัฐตุรกีมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ด้านคมนาคม เพื่อพัฒนาระบบขนส่งในประเทศ รวมทั้งเศรษฐกิจและขีดความสามารถในการแข่งขันระดับนานาชาติ โดยตุรกีมีที่ตั้งด้านยุทธศาสตร์เชื่อมระหว่างทวีปเอเชียกับยุโรป และได้นำเสนอประสบการณ์ ความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมการก่อสร้างที่มีความสำคัญของตุรกี ซึ่งตุรกีมีความยินดีจะให้ความร่วมมือในด้านดังกล่าว เพื่อเป็นประโยชน์กับโครงการก่อสร้างต่างๆ ของไทย และได้ขอความอนุเคราะห์ข้อมูลด้านการจัดซื้อจัดจ้างของไทย เพื่อนักลงทุนตุรกีสามารถเข้ามาลงทุนในประเทศไทยต่อไป

นอกจากนี้สาธารณรัฐตุรกีได้ให้ความสนใจการลงทุนอุตสาหกรรมอนาคต (New S-curve) ในเขตอีอีซีของไทย ความร่วมมือด้านพาณิชย์นาวี และการขนส่งทางอากาศระหว่างไทย-ตุรกี ทั้งนี้ประเทศไทยและตุรกีอยู่ระหว่างพิจารณาความตกลงด้านพาณิชย์นาวีและสิทธิการบินระหว่างประเทศ เพื่อความสัมพันธ์และความร่วมมืออันดีระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐตุรกีต่อไป.