เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ที่บริเวณด่านตรวจด้านหน้าสวนสาธารณประตูเมือง ริมถนนมิตรภาพ เขตเทศบาลนครขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานเปิดจุดตรวจบูรณาการร่วมทุกหน่วยงานในการตรวจวัดควันดำของผู้ใช้รถใช้ถนนที่ผ่านในด่านตรวจดังกล่าว ตามาตรการจับ ปรับ จริง ห้ามใช้รถยนต์ควันดำในพื้นที่ เพื่อรับมือและลดปัญหาฝุ่นละออง โดยเฉพาะกับฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือ PM 2.5 ซึ่งทางจังหวัด ร่วมกับสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 10 สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมขอนแก่น ขนส่งจังหวัด ปภ. และตำรวจได้กำหนดตั้งจุดตรวจขึ้น ครอบคลุมทั้ง 26 อำเภอของ จ.ขอนแก่น เริ่มวันนี้เป็นวันแรก

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปมาตรการควบคุมและป้องกันการเกิดปัญหาฝุ่นละออง โดยเฉพาะฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือ PM 2.5 จะดำเนินการอย่างเข้มงวดและเข้มข้น ครอบคลุมพื้นที่ 26 อำเภอของจังหวัด ด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยวันนี้จุดตรวจควันดำ ที่กำหนดจัดตั้งขึ้นแบบบูรณาการร่วมทุกภาคส่วน ที่บริเวณ ริมถนนมิตรภาพ หน้าสวนสาธารณะประตูเมือง เขตเทศบาลนครขอนแก่น เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญที่สื่อให้เห็นถึงการเอาจริงของหน่วยงานภาครัฐในการบังคับใช้ข้อกฎหมาย คือ จับ ปรับ จริง ในกลุ่มผู้ใช้รถใช้ถนน ที่จะต้องตระหนักถึงความสำคัญในการร่วมมือกันควบคุมการเกิดมลพิษในระดับพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการเลือกตรวจรถยนต์ในทุกประเภท โดยเฉพาะกลุ่มรถบรรทุก รถยนต์โดยสารทุกประเภท และรถยนต์ส่วนบุคคลที่จะต้องเข้ารับการตรวจวัดค่าควันดำ 2 ครั้ง ซึ่งหากตรวจพบว่ามีค่าเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด นอกจากการปรับตามข้อกฎหมายแล้ว เจ้าพนักงานขนส่งจะทำสัญลักษณ์ไว้ที่บริเวณรถหรือที่เรียกว่าการติดประกาศห้ามใช้รถ เพื่อให้รถคันดังกล่าวได้รับการแก้ไขภายใน 30 วัน จึงจะสามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ

“เมื่อการตรวจค่าควันดำของรถแล้วเสร็จตามกระบวนการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ หากพบว่ามีค่าเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เจ้าหน้าที่จะติดป้ายเหลืองคือห้ามใช้ชั่วคราวเพื่อให้เจ้าของรถได้นำรถเข้าทำการแก้ไขและเข้ารับการตรวจประเมินอีกครั้งภายใน 30 วัน และหากยังคงฝ่าฝืนเจ้าพนักงานขนส่งก็จะทำการแจกใบแดง หรือ ป้ายสัญลักษณ์ห้ามใช้รถเด็ดขาดที่มีสีแดง ติดตั้งในรถตามระเบียบของกฎหมายทันที อย่างไรก็ตามการตั้งจุดตรวจควันดำ จะดำเนินการครอบคลุมทั้ง 4 มุมเมือง และกระจายไปในพื้นที่ทั้งจังหวัดตามแผนการดำเนินงานที่ได้กำหนดไว้” ผวจ.ขอนแก่น กล่าว

ผวจ.ขอนแก่น กล่าวอีกว่า ขณะนี้เข้าสู่ฤดูหนาวซึ่งนอกจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นและมีลมกระโชกแรงแล้ว ปัญหาเรื่องฝุ่นละออง
เป็นประเด็นหลักที่จังหวัดได้เฝ้าติดตามสถานการณ์ มีประเมินสถานการณ์และการกำหนดแผนการรับมืออย่างเข้มงวดทุกฝ่าย โดยเฉพาะกับการเผาตอข้าวหรือซังข้าว ที่ขณะนี้การเก็บเกี่ยวของเกษตรกรเริ่มแล้วเสร็จ รวมไปถึงการที่จะเข้าช่วงฤดูกาลของการเปิดหีบอ้อย ที่จังหวัดยังคงต้องเน้นย้ำในการห้ามการเผาไร่อ้อยหรือซังข้าวเด็ดขาด เพราะจะเป็นสาเหตุหลักที่สำคัญที่จะก่อให้เกิดมลพิษในระดับพื้นที่