นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ได้หารือและพิจารณาร่างประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญาเกี่ยวกับเรื่องเช่าซื้อรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) พบข้อกังวลด้านเพดานดอกเบี้ยรถยนต์ใช้แล้วหรือรถเก่า และรถจักรยานยนต์ รวมถึงเงื่อนไขในการคืนรถจบหนี้

โดยในร่างกำหนดให้คิดดอกเบี้ยไม่เกิน 20% ที่จะเปิดรับฟังความคิดเห็นรอบที่สองในวันที่ 16 ธ.ค.นี้ อาจทำให้ได้รับผลกระทบทั้งผู้ปล่อยสินเชื่อ ผู้บริโภค ผู้ผลิตและผู้ขาย โดยจะทำหนังสือถึงนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน และนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หารือในเรื่องนี้ด้วย

“ในอดีตธุรกิจลีสซิ่งปล่อยกู้รถไม่ได้มีใครมากำกับมาคุม ทำให้ที่ผ่านมาคิดดอกเบี้ยกันตามต้นทุนบวกกับความเสี่ยง ทำให้คนกู้ที่เสี่ยงก็จะมีการคิดดอกเบี้ยแพง จน สคบ.จะออกประกาศมาคุม แต่ดอกเบี้ยที่จะกำหนดผู้กระทบมากที่สุดคือรายเล็กและลีสซิ่งตามต่างจังหวัดโดยเฉพาะลีสซิ่งมอเตอร์ไซค์ แต่การมาควบคุมดูแลเป็นเรื่องดีที่ทุกภาคส่วนได้เห็นต้นทุนที่แท้จริงว่าเป็นอย่างไร ต้องมีความไม่ได้เปรียบเสียเปรียบกัน”

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า การที่ภาครัฐจะเข้ามากำกับธุรกิจลีสซิ่ง เป็นเรื่องเห็นด้วย แต่กังวลดอกเบี้ยรถยนต์เก่า และมอเตอร์ไซค์ที่จะให้คิดดอกเบี้ยแค่ 20% ต่อปี ซึ่งถือว่าต่ำเกินไป โดยได้เสนอให้กำหนดเพดานดอกเบี้ยรถยนต์ใช้แล้ว 24% ต่อปี และดอกเบี้ยมอเตอร์ไซค์ 36% ต่อปี เพราะหากดอกเบี้ยต่ำเกินไป จะส่งผลกระทบให้ผู้บริโภคเข้าไม่ถึงแหล่งเงินกู้ เนื่องจากผู้ให้บริการลีสซิ่งปล่อยสินเชื่อยากขึ้นจากความเสี่ยงรถเก่าและมอเตอร์ไซค์สูง ในขณะที่ดอกเบี้ยรับค่อนข้างต่ำ ยิ่งให้คนที่นำรถมาประกอบอาชีพได้รับความเดือดร้อนอย่างแน่นอน และจะทำให้คนออกไปกู้นอกระบบมากขึ้นด้วย ซึ่งดอกเบี้ยแพงกว่าในระบบหลายเท่า

ทั้งนี้จากข้อมูลของผู้ประกอบสินเชื่อลีสซิ่งรถมอเตอร์ไซค์ หากปล่อยกู้รถ 100 คัน แล้วผิดนัดชำระหนี้ สามารถตามเก็บและยึดรถมาได้เพียง 37 คันเท่านั้น ซึ่งเป็นความเสี่ยงอย่างมากถ้าคิดดอกเบี้ยเพียง 20% จะยิ่งทำให้ปล่อยกู้ได้ยาก และทำให้กระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ในภาคการผลิต โดย สคบ.จะเปิดรับฟังความเห็นอีกครั้งรอบที่สองในวันที่ 16 ธ.ค.นี้ มองว่า สคบ.ควรแยกคิดดอกเบี้ยในแต่ละประเภททั้งรถยนต์มือสองและมอเตอร์ไซค์ ไม่ใช่คิดรวมที่ 20% ส่วนดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์ใหม่กำหนดดอกเบี้ย 15% ต่อปี ถือว่าไม่มีปัญหา

“เดิมเฮียริ่งร่างสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ของ สคบ.ในรอบแรก กำหนดดอกเบี้ยไว้ไม่เกิน 15% แต่ได้มีผู้ประกอบการไม่เห็นด้วยจำนวนมาก สคบ.จึงได้ปรับเพิ่มดอกเบี้ยเป็น 20% ซึ่งในเรื่องของรถใหม่ไม่มีปัญหาที่จะคิดดอกเบี้ย 15% แต่เป็นข้อกังวลมากหากคิดดอกเบี้ย 20% ในรถยนต์เก่าและมอเตอร์ไซค์ กลัวว่าสถาบันการเงินลีสซิ่งจะไม่ปล่อยกู้เพราะความเสี่ยงสูง และจะกระทบทั้งผู้ขายและผู้ผลิต”